ควิดดิชเวิลด์คัพ (ค.ศ. 1990 – 2014)

เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง

1990

แคนาดา 270, สกอตแลนด์ 240

ความผิดหวังอันขมขื่นของสกอตแลนด์ ที่มีซีกเกอร์อย่างเฮคเตอร์ ลามันต์ (Hector Lamont) พลาดการจับลูกสนิชไปอย่างเฉียดฉิวเพียงมิลลิเมตร ในการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเฮคเตอร์ตำหนิพ่อของเขา [‘สตับบี้’ ลามันต์ (‘Stubby’ Lamont)] ไปทั่ว ที่ไม่ให้นิ้วมือแก่เขายาวกว่านี้อีกสักหน่อย

 

1994

ไอร์แลนด์ 170, บัลแกเรีย 160

พิธีเปิดสนามถูกข่มรัศมีไปเกือบหมดด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการแข่งขันครั้งนี้ การจับลูกสนิชที่น่าประทับใจด้วยฝีมือของซีกเกอร์ดาวรุ่ง วิกเตอร์ ครัม เพียงพอที่จะกอบกู้เกียรติยศของทีมบัลแกเรีย แต่ไม่เพียงพอที่จะปกป้องชัยชนะไว้ได้

 

1998

มาลาวี 260, เซเนกัล 180

นี่เป็นเพียงครั้งที่สองเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ที่คู่ชิงชนะเลิศรอบสุดท้ายเป็นทีมจากทวีปแอฟริกาทั้งคู่ จากเหตุการณ์จลาจลในปี ค.ศ.1994 การรักษาความปลอดภัยในการแข่งขันครั้งนี้จึงแน่นหนามากกว่าที่เคยมีมา ทีมจากเซเนกัลเกือบปฏิเสธที่จะร่วมเล่น เมื่อมาสคอตประจำทีม (ยัมโบ) ถูกสกัดกั้นให้อยู่ภายนอกสนามแข่งขัน ยัมโบ (Yumbo) เป็นเอลฟ์ประจำบ้านชนิดหนึ่งของแอฟริกา และพวกมันได้ถือเอาเหตุผลที่ตัวเองถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้าสนามไปขโมยอาหารทุกๆ ชิ้นภายในรัศมีสิบไมล์ เพื่อเป็นการแก้แค้น แล้วหายตัวจากไปในเวลากลางคืน

 

2002

อียิปต์ 450, บัลแกเรีย 300

ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ชี้ขาดความผิดหวังของทีมบัลแกเรีย เมื่อวิกเตอร์ ครัม พ่ายแพ้ในการจับลูกสนิชให้กับโรว์ยา ซากูลห์ (Rawya Zaghloul) ซีกเกอร์ฝีมือเยี่ยมจากอียิปต์ หลังจบเกม ครัมซึ่งใกล้จะร้องไห้ประกาศลาออกจากทีมทันที

 

2006

บูร์กินา ฟาโซ 300, ฝรั่งเศส 220

ชัยชนะอันเป็นที่ชื่นชมอย่างกว้างขวางสำหรับประเทศเล็กๆ จากเชื้อชาติแอฟริกา ซึ่งมีซีกเกอร์ อย่าง โยชัว ซานการา (Joshua Sankara) ที่ถูกเสนอชื่อให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ของบูร์กินาทันที แต่อีกสองวันต่อมาเขาก็ขอสละสิทธิ์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาชอบที่จะเล่นควิดดิชมากกว่า

 

2010

มอลโดวา 750, จีน 640

เกมการแข่งขันอันดุเดือดนี้ใช้เวลาแข่งขัน 3 วัน และโดยทั่วไปถือว่าได้ก่อให้เกิดเกมการแข่งขันควิดดิชที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นกันมาในรอบศตวรรษนี้ ประเทศเล็กๆ อย่างมอลโดวาสร้างทีมควิดดิชชั้นเยี่ยมเสมอมา และบรรดากองเชียร์ต่างพากันหัวใจสลาย เมื่อพวกเขาถูกตัดสิทธิ์ในปีนี้ เนื่องมาจากการระบาดของโรคฝีมังกรในแคมป์ที่ฝึกซ้อมของพวกเขาเอง

 

ควิดดิชเวิลด์คัพ ประจำปี 2014

การแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพในปีนี้ มีทีท่าว่าจะตื่นเต้นมากกว่าครั้งไหนๆ ประเทศที่เข้าร่วมแข่งขัน 16 ทีมสุดท้าย ได้แก่ บราซิล, บัลแกเรีย, ชาด, ฟิจิ, เยอรมัน, เฮติ, ไอวอรี่โคสต์, จาไมก้า, ญี่ปุ่น, ลิกเตนสไตน์, นิวซีแลนด์, ไนจีเรีย, นอร์เวย์, โปแลนด์, สหรัฐอมเริกา และเวลส์

ไนจีเรียและนอร์เวย์เข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในฐานะทีมที่มีคะแนนสูงสุดสองอันดับแรก และนี่เป็นครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดกันว่ามีโอกาสพอสมควรที่จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย แต่ความสนใจส่วนใหญ่มุ่งไปที่การหวนกลับคืนสู่ทีมบัลแกเรียของผู้ที่เคยลาออกไปก่อนหน้านี้ นั่นคือ วิกเตอร์ ครัม ซีกเกอร์ที่ปีนี้มีอายุถึง 38 ปี ผู้ซึ่งตั้งความหวังเอาไว้ว่า ‘จะต้องคว้าแชมป์โลกมาให้ได้ก่อนที่ผมจะตาย’ และด้วยเหตุนี้ บัลแกเรียจึงได้รับแรงเชียร์จากประเทศต่างๆ ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าชิงชนะเลิศ ส่วนทีมจากลิกเตนสไตน์นั้น พลิกความคาดหมายอย่างยิ่ง เนื่องจากมีสิทธิ์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ด้วยการเอาชนะจีน ซึ่งเป็นทีมอันดับสองจากการแข่งขันเมื่อปี ค.ศ.2010 มาสคอตประจำทีมลิกเตนสไตน์ คือ ฮานส์ (Hans) ออเกอรี่เศร้าสร้อยตัวใหญ่ของทีม ซึ่งมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง

นอกเหนือจากนี้ ไม่มีรายงานความผิดปกติใดๆ ส่วนข่าวลือที่ว่าทีมจากเฮติใช้อินเฟอไรขู่ทีมต่างๆ ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามนั้น ถูกคณะกรรมการกีฬาควิดดิชแห่งสหพันธ์พ่อมดนานาชาติมองข้ามไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘เป็นเจตนาที่มุ่งร้ายและไม่มีหลักฐาน’ ข้อกล่าวหาที่ว่าโบนาเวนทูร่า วอจ์คิก (Bonawentura Wójcik) ซีกเกอร์ของทีมโปแลนด์ เปลี่ยนร่างซีกเกอร์ผู้มีชื่อเสียงของอิตาลี ลูเซียโน่ โวลปิ (Luciano Volpi) ถูกพิสูจน์แล้วโดยทีมของวอจ์คิกว่าเป็นเพียงเรื่องโคมลอยเท่านั้น เมื่อลูเซียโน่ โวลปิ ยอมที่จะแถลงข่าวในที่สุด ทางด้านเกว็นน็อก โจนส์ ผู้จัดการของทีมเวลส์ ซึ่งในอดีตเคยเล่นให้กับทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์ ขู่จะ ‘สาปอัดหน้า’ ผู้จัดการทีมคู่แข่งชาวบราซิล โฮเซ่ บาร์โบซา (José Barboza) เมื่อเขาเรียกเหล่าเชสเซอร์ในทีมของเธอว่า ‘แม่มดเฒ่าไร้พรสวรรค์’ คำวิจารณ์ที่ต่อมาภายหลังเขายืนยันว่าถูกบิดเบือนไป

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในเดือนหน้า ที่ทะเลทรายปาตาโกเนียน


ต้นฉบับภาษาอังกฤษ: https://www.pottermore.com/writing-by-jk-rowling/history-of-the-quidditch-world-cup

บทความแนะนำ