664

สัตว์มหัศจรรย์…

ชื่อเรื่องก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ายังมีตัวละครอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ นั่นคือสัตว์วิเศษที่นิวท์ได้ช่วยเหลือมาระหว่างการสำรวจรอบโลก สัตว์เหล่านี้ได้รับการออกแบบ จากนั้นจึงได้เพิ่มความลึก มิติ สีสัน แสง การเคลื่อนไหว และบุคลิกของแต่ละตัวผ่านซีจี กระบวนการที่ซับซ้อนนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเดวิด เยตส์, เจ.เค.โรว์ลิ่ง, ผู้ควบคุมวิชวลเอฟเฟกต์ ทิม เบิร์คและคริสเตียน แมนซ์ พร้อมทีมงาน ตลอดจนฝ่ายพัฒนาคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นสำหรับวิชวลเอฟเฟกต์ นำโดยพาโบล กริลโล รวมถึงคนอื่นๆ อีกมาก

เบิร์คยืนยันว่า “เราทำงานนี้จากทุกมุมมอง โดยอาศัยมุมมองเชิงสร้างสรรค์จากศิลปินผู้วาดภาพคอนเซปต์ ประติมากร นักออกแบบ และนักสร้างแอนิเมชั่น เราเลือกส่วนที่ดีที่สุดจากทีมงานหลายฝ่ายแล้วนำมาหลอมรวมกันเพื่อให้ได้สัตว์ที่มหัศจรรย์ที่สุด”

ทีมงานกลับไปค้นข้อมูลโดยเริ่มต้นจากตำราของนิวท์ สคามันเดอร์ ซึ่งโรว์ลิ่งเขียนขึ้นเมื่อหลายปีก่อน แมนซ์เล่าว่า “หนังสือเล่มนี้เป็นจุดตั้งต้นสำคัญซึ่งกลายเป็นเหมือนสารานุกรมของเรา เราพัฒนาตัวละครสัตว์ชนิดต่างๆ จากจุดนั้น ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การสร้างสัตว์ที่คุณเชื่อว่าสามารถอาศัยอยู่ในอาณาจักรสัตว์ของโลกเวทมนตร์ได้”

เยตส์เน้นว่า “สิ่งสำคัญที่ผมย้ำกับทุกคนในทีมคือสัตว์พวกนี้จะต้องมหัศจรรย์แต่ไม่ใช่สัตว์ แฟนตาซี เราหาแรงบันดาลใจจากสิ่งอ้างอิงที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ เพราะโลกธรรมชาตินั้นเต็มไปด้วยความน่าอัศจรรย์และสัตว์ที่งดงามน่าทึ่งอยู่แล้ว”

“ผมทำงานกับเดวิด เยตส์มาเกินสิบปีแล้ว เขามักจะลงมือดูแลเองตลอดกระบวนการทำงาน” เบิร์คกล่าว “สิ่งสำคัญคือการนำเสนอความสมจริงที่อยู่ในการแสดง และสำหรับตัวละครซีจีนั้นก็เช่นเดียวกันกับตัวละครมนุษย์ หนังจะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อคุณยอมรับว่าสัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตัวละครที่เป็นมนุษย์”

yate-newt-tina

หน้าที่ในการสร้างความเชื่อนี้ตกเป็นของนักแสดงด้วยส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอ็ดดี้ เรดเมย์น ซึ่งใช้เวลาบนจอภาพยนตร์แสดงร่วมกับสัตว์มากที่สุด เขาต้องถ่ายทอดความรักอันมั่นคงและความเมตตากรุณาที่นิวท์ สคามันเดอร์มีต่อเหล่าสิงสาราสัตว์ของเขา เพื่อเตรียมตัวถ่ายทอดแง่มุมดังกล่าว เรดเมย์นใช้เวลาอยู่กับผู้ดูแลสัตว์ เพื่อศึกษาว่าคนเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับสัตว์ที่ตนดูแลอย่างไร เขาให้รายละเอียดว่า “ผมไปพบนักสัตววิทยาและคนที่แกะรอยสัตว์เพื่อสังเกตพฤติกรรมตามธรรมชาติ ทุกคนพูดถึงความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสภาพแวดล้อมและต่างก็ยกย่องธรรมชาติ ผมศึกษาความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ซึ่งก็ช่วยผมได้มากในการแสดงทั้งทางร่างกายและอารมณ์”

แคทเทอรีน วอเตอร์สตัน กล่าวว่า “การได้เห็นเอ็ดดี้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกสัตว์เป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบในการทำงานร่วมกับเขา เพราะความสัมพันธ์กับสัตว์แต่ละตัวนั้นล้วนมีความแตกต่าง และเขาก็ได้พัฒนาวิธีการเฉพาะในการสื่อสารกับสัตว์แต่ละตัว ซึ่งบางครั้งก็ออกมาในรูปของท่าทางเพียงเล็กน้อย แต่คุณรู้ว่าเขาคิดมาเป็นเดือนๆ ว่าควรเคลื่อนไหวไปพร้อมกับสัตว์อย่างไร หรือทำอย่างไรให้รายละเอียดทุกๆ ส่วนในงานที่นิวท์ทำร่วมกับสัตว์เหล่านี้มีความเฉพาะเจาะจงขึ้นมา”

godung

เรดเมย์นจำได้ว่าวิธีการตอบสนองกับสัตว์ของนักแสดงอีกรายหนึ่งนั้นส่งผลทั้งต่อตัวเขาและต่อตัวละครของเขาด้วย “ตอนที่นิวท์พาเจคอบลงไปในกระเป๋า ผมไม่มีทางลืมสายตาพิศวงของแดน ฟอกเลอร์เลย นิวท์เล็งเห็นว่าเจคอบมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น เขาเห็นผู้คนโหดร้ายต่อสัตว์เหล่านี้มามากจนทำให้เขาเริ่มชอบเจคอบขึ้นมา และถึงขั้นไว้วางใจให้เจคอบให้อาหารสัตว์บางตัว แดนยืนจ้องมองไปยังความว่างเปล่า พร้อมกับทำท่าให้อาหารสัตว์อย่างมีความสุขและชื่นชมยอมรับ ฉากนั้นทำให้ผมตะลึงไปเลยครับ”

เพื่อช่วยให้นักแสดงเล่นกับสัตว์ที่อยู่ตรงหน้าซึ่งไม่ได้มีอยู่จริง ทีมงานจึงนำนักเชิดหุ่นเข้ามาช่วย “นักแสดงจะได้โต้ตอบกับสิ่งที่เป็นตัวเป็นตน สัมผัสได้ และตอบสนองต่อการแสดงของนักแสดงได้ทันที” ผู้ควบคุมการเชิดหุ่นสัตว์ โรบิน ไกเวอร์กล่าว “นักแสดงสามารถเล่นไปพร้อมกับหุ่นเชิดซึ่งช่วยบอกขนาดและรูปร่างสำหรับการจัดเฟรมของกล้องด้วย การมีตัวแทนที่เป็นรูปธรรมนั้นสำคัญมากต่อทีมงานหลายๆ ฝ่าย”

สัตว์เหล่านี้มีความหลากหลายไม่แพ้ที่เราพบในอาณาจักรสัตว์ของเราและครอบคลุมทุกประเภท ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปจนถึงนก สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง รวมถึงการผสมผสานข้ามสายพันธุ์จนทำให้ยากแก่การจำแนกประเภท พาโบล กริลโลกล่าวว่า “เราต้องการสร้างสัตว์ให้ครอบคลุมมากที่สุดเพื่อแสดงถึงความแตกต่างหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในโลกเวทมนตร์ ทั้งสัตว์ที่มีน่ารัก น่าเกรงขาม น่าหวาดกลัว และสง่างาม เรายังได้คำนึงถึงแหล่งที่มาของสัตว์ด้วยว่าจะเป็นทะเลทรายอริโซนาหรือที่ราบในแอฟริกา แล้วสะท้อนส่วนนี้ออกมาในการออกแบบและหน้าที่การทำงานส่วนต่างๆ เราพัฒนาลักษณะการทำงานของร่างกายสัตว์ในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งช่วยขยายศักยภาพในการสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ”

niffler

เพื่อสร้างสัตว์เหล่านี้ให้มีชีวิตขึ้นมา กริลโลกล่าวว่าทีมงานขอความเห็นจากเจ้าของจินตนาการผู้ริเริ่มโครงการทั้งหมดนี้ขึ้นมา “ระหว่างการทำงาน เจ.เค.โรว์ลิ่งจะเข้ามาดูว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าการได้รับความเห็นชอบจากเธอเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเรา ในบางครั้งเธอจะบอกว่า ‘ไม่ใช่ แบบนี้ไม่ถูกนะ นิวท์จะไม่ใส่เจ้าตัวนั้นลงไปในกระเป๋าเพราะมันเป็นสัตว์เลี้ยง นิวท์สนใจสัตว์สายพันธุ์ที่หายากและเปราะบางมากกว่า” เธอรู้จักโลกใบนี้อย่างละเอียดเลยล่ะครับ ดังนั้นการได้ความเห็นจากเธอจึงมีประโยชน์มาก”

เช่นเดียวกับทีมนักแสดงในหนังไม่ว่าเรื่องไหน บทบาทบางบทจะโดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ ตัวละครสัตว์มหัศจรรย์ใน “Fantastic Beasts” ก็เช่นกัน สัตว์ตัวแรกที่หลบหนีออกไปจากกระเป๋าก็คือเจ้านิฟเฟลอร์จอมซน มันเป็นสัตว์ประเภทหนูตัวเล็กๆ และมีขน มีปากเหมือนเป็ดรวมถึงกระเป๋าหน้าท้องแบบจิงโจ้ซึ่งสามารถขยายออกเพื่อเก็บทรัพย์สมบัติที่ฉกฉวยมาได้อย่างไม่จำกัด “นิฟเฟลอร์ชอบสิ่งที่มีประกายแวววาว มันจึงห้ามใจไม่ได้เมื่อเห็นอะไรก็ตามที่เปล่งแสงหรือเปล่งประกายออกมา” เรดเมย์นอธิบาย “นิวท์ทั้งรักทั้งเกลียดนิฟเฟลอร์เพราะเขาอดไม่ได้ที่จะหลงรักมัน แต่มันก็เป็นตัวสร้างปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น เป็นเจ้าตัวน้อยที่ฉลาดหลักแหลม และเมื่อหลุดออกไปแล้วก็เป็นสัตว์ที่คล่องแคล่วรวดเร็วจนน่าประหลาดใจด้วย”

fb-vc-2255r

ถึงแม้ว่านิวท์จะรักสัตว์ทุกตัวที่เขาดูแล แต่เรดเมย์นยอมรับว่าเขาเองชอบบางตัวเป็นพิเศษ อย่างโบวทรัลเกิลตัวจิ๋วที่หน้าตาเหมือนต้นพืชและมีชื่อว่าพิกเกตต์ มันเป็นเพื่อนที่ซ่อนตัวอยู่กับนิวท์ตลอดเวลา “ผมชอบโบวทรัลเกิลมากครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิกเกตต์ มันติดนิวท์มากและชอบอยู่ในกระเป๋าเสื้อของนิวท์มากกว่าจะอยู่กับโบวทรัลเกิลตัวอื่นๆ”

ขณะที่โบวทรัลเกิลเป็นสัตว์ตัวเล็กที่สุดในบรรดาสัตว์ที่นิวท์เลี้ยงไว้ สัตว์ที่ตัวใหญ่ที่สุดก็น่าจะเป็นอีรัมเพนท์ซึ่งทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างตามทางที่มันเดินไป กริลโลกล่าวว่า “ด้วยขนาดและน้ำหนักมหาศาลทำให้มันไปชนเข้ากับกำแพงและไม่มีอะไรที่จะหยุดแรงเหวี่ยงของมันได้ แต่เราก็อยากให้มันมีเสน่ห์อ่อนโยนด้วยเพราะมันอยู่ในช่วงผสมพันธุ์และกำลังโหยหาความรัก” เขาหัวเราะ

เรื่องที่ว่าอีรัมเพนท์ตัวนี้กำลังอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ช่วยให้นิวท์มีวิธีการต้อนมันกลับเข้ากระเป๋า ด้วยการใช้น้ำมันกลิ่นอีรัมเพนท์หนึ่งหยดพร้อมกับสิ่งที่เรดเมย์นเรียกแบบติดตลกว่า “ช่วงเวลาที่น่าอายในหนังเรื่องนี้” นั่นคือการเลียนแบบท่าเต้นเรียกคู่ของอีรัมเพนท์

เพื่อช่วยเหลือทั้งนักแสดงและเยตส์ เรดเมย์นจึงมีเพื่อนมาร่วมแสดงด้วยในฉากนี้ นั่นคือหุ่นเชิดตัวใหญ่ยักษ์ที่สร้างขึ้นมาให้มีขนาดและรูปร่างเหมือนอีรัมเพนท์ เชิดโดยนักเชิดหุ่นสามคนซึ่งเคยเล่นเป็นตัวละครม้าศึกในละครเวทีเรื่อง “War Horse” “แต่หุ่นอีรัมเพนท์นั้นใหญ่โตมโหฬารจริงๆ” ไกเวอร์กล่าว “มันสูงห้าเมตร กว้างสามเมตร และยาวแปดเมตร ดังนั้นการถ่วงน้ำหนักพร้อมกับเคลื่อนไหวอย่างอิสระจึงไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีนี้มีประโยชน์ตรงที่ว่าเดวิด เยตส์สามารถกำกับหุ่นเชิดได้เหมือนเวลากำกับนักแสดง เขาควบคุมการเคลื่อนไหวให้เป็นไปตามที่เขาต้องการและกำหนดตำแหน่งให้ตัวละครในฉากได้ด้วย”

อีรัมเพนท์

อีรัมเพนท์

ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผนที่นิวท์วางไว้ เจคอบทำน้ำมันหกรดใส่ตัวเอง ทำให้เจ้าสัตว์ผู้โหยหาความรักหันเหความสนใจมาที่เขา การไล่ล่าที่ตามมานั้นอันตรายต่อเจคอบอย่างยิ่ง เพราะนอกจากขนาดอันใหญ่โตและผิวหนังหุ้มเกราะของมันแล้ว อีรัมเพนท์ยังมีนอแหลมเรืองแสง ภายในมีของเหลวซึ่งทำให้สิ่งที่ถูกเจาะระเบิดออกมา อย่างไรก็ดี ฟอกเลอร์กล่าวว่า “การถ่ายทำฉากนั้นสนุกมากเลยครับ การเล่นตลกท่าทางเป็นสไตล์ถนัดของผมเลย”

ในบรรดาสัตว์มีปีกที่นิวท์เลี้ยงเอาไว้นั้นมีทันเดอร์เบิร์ดและสวูปิงอีวิล แม้ว่าทั้งสองจะสามารถบินได้ พวกมันก็คล้ายคลึงกันแค่เพียงเรื่องนี้เท่านั้น เมื่อมองแวบแรก สวูปิงอีวิล เหมือนเป็นแค่ดักแด้สีเขียวตัวเล็กๆ ที่มีหนาม แต่ถ้ามันถูกเหวี่ยงให้ถูกวิธี “คล้ายกับการเล่นโยโย่” เรดเมย์นอธิบาย “มันจะขยายตัวออกเป็นสัตว์ที่สวยงามแต่ดูดุร้ายซึ่งจะบินโฉบไปรอบๆ จนกว่านิวท์จะเรียกมันกลับมาแล้วมันก็จะห่อตัวจนกลับเป็นดักแด้เหมือนเดิม” ด้วยลำตัวที่คล้ายสัตว์เลื้อยคลานและปีกหลากสีเหมือนผีเสื้อตัวใหญ่ สวูปิงอีวิล อาจเป็นสัตว์อันตรายได้เพราะเป็นที่รู้กันว่ามันสามารถดูดสมองของสัตว์อื่น

fb-vfx-dn-1060-gr

ในทางตรงกันข้าม เยตส์กล่าวว่า “ทันเดอร์เบิร์ดเป็นสัตว์สูงศักดิ์ที่ถูกจับมาขายตอนที่นิวท์ช่วยมันมาและตั้งชื่อให้มันว่าแฟรงก์ ที่จริงแล้วมันเป็นเหตุผลให้นิวท์เดินทางมายังอเมริกา เขาตั้งใจที่จะนำแฟรงก์กลับไปยังถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมในอริโซนาและปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ”

เจ.เค.โรว์ลิ่ง เสริมว่า “ฉันอยากให้มีสิ่งหนึ่งที่มีความเป็นอเมริกา นั่นก็คือทันเดอร์เบิร์ด ฉันผูกพันกับพวกนกเป็นพิเศษ ฉันรักนกฟีนิกซ์ของดัมเบิลดอร์ และฉันก็อยากให้มีนกซึ่งมีตำนานของมันเองในหนังเรื่องนี้ เวลาทันเดอร์เบิร์ดกระพือปีกหลายๆ ปีกของมัน จะทำให้เกิดพายุขึ้น ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งมีชีวิตตามตำนานที่ทรงพลัง”

อย่างไรก็ดี โรว์ลิ่งยอมรับว่าสัตว์ตัวโปรดของเธอไม่ใช่นก แต่เป็นเดมิไกส์ สัตว์ตระกูลไพรเมทขนาดกลางที่มีขนสีเงินและดวงตากลมโตฉายแววละห้อย “พวกมันมีพลังล่องหนได้ซึ่งเป็นพลังที่ฉันสนใจมาตลอด ฉันชอบเดมิไกส์ค่ะ”

เดมิไกส์

เดมิไกส์

เดมิไกส์ของนิวท์เป็นเพื่อนสนิทกับออคคามี่ สัตว์ตระกูลงูซึ่งมีสองขาพร้อมด้วยปีกที่มีขนคล้ายขนนกทำให้มันดูคล้ายมังกรมีปีก และเปลือกไข่ของมันก็เป็นเงินบริสุทธิ์ ออคคามี่ สามารถ “ปรับขนาดตัว” หมายความว่ามันจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงตามพื้นที่ว่างรอบตัว ทำให้มันเป็นสัตว์ที่สร้างขึ้นมาได้ยาก ทิม เบิร์ค กล่าวว่า “ตอนที่พวกเขาแกะรอยตาม ออคคามี่ มันอยู่ในพื้นที่กว้าง ดังนั้นมันจึงมีลำตัวยาวมากซึ่งเรานำมาพันไปรอบห้อง และเวลาที่มันตื่นตระหนก มันจะเปล่งแสงเหลือบไปตามลำตัว ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีการสร้างแสงหักเหซึ่งจะเคลื่อนไปตามขนของมัน”

occamy

สัตว์อีกสองตัวที่หนีออกไปจากกระเป๋าของนิวท์คือเมิร์ตแลป สัตว์คล้ายหนูซึ่งมีหนามแหลมขึ้นที่หลัง มันเป็นสัตว์ที่กัดเจคอบจนเป็นแผลลึกในตอนต้นเรื่อง และบิลลี่วิก แมลงคล้ายด้วงสีน้ำเงินแซฟไฟร์ซึ่งมีเหล็กในยาวและปีกอยู่ที่หัวทำให้มันสามารถหมุนตัวได้ขณะบิน ยังมีสัตว์อื่นๆ อีกมากมายที่อาศัยอยู่ในกระเป๋าของนิวท์ รวมถึงมูนคาล์ฟสีเทาซึ่งมีดวงตากลมโตอยู่ด้านบนของหัว และแกรปฮอร์นตัวผู้ตัวเมียคู่สุดท้ายซึ่งมีผิวหนังสีม่วงอมเทาและเขาแหลมยาวหลายเขา รวมถึงสัตว์อื่นๆ อีกมาก

ภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ภาคแรก มีกำหนดฉายในไทย 17 พฤศจิกายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์


Notice: Trying to access array offset on value of type bool in /var/www/vhosts/muggle-v.com/httpdocs/wp-content/themes/mts_clean/functions/theme-actions.php on line 426

Notice: Trying to access array offset on value of type bool in /var/www/vhosts/muggle-v.com/httpdocs/wp-content/themes/mts_clean/functions/theme-actions.php on line 426

Notice: Trying to access array offset on value of type bool in /var/www/vhosts/muggle-v.com/httpdocs/wp-content/themes/mts_clean/functions/theme-actions.php on line 426