ในหอคอยเล็ก ๆ ของฮอกวอตส์ซึ่งถูกลั่นกุญแจไว้และไม่เคยมีนักเรียนคนใดย่างกรายเข้าไปถึง มีหนังสือโบราณเล่มหนึ่งที่ไม่เคยถูกสัมผัสด้วยมือมนุษย์คนใดเลยนับตั้งแต่ผู้ก่อตั้งทั้งสี่ได้ประดิษฐานมันไว้ในวาระซึ่งปราสาทถูกสร้างแล้วอย่างเสร็จสมบูรณ์ ข้าง ๆ หนังสือซึ่งหุ้มปกด้วยหนังมังกรสีดำที่หลุดลอกแล้วนั้น มีขวดหมึกสีเงินขวดเล็ก ๆ พร้อมทั้งปากกาขนนกสีซีดโผล่พ้นออกมา สิ่งนี้คือปากกาขนนกรับรองและหนังสืออนุญาต อันเป็นเครื่องกำหนดเพียงอย่างเดียวว่านักเรียนคนไหนบ้างที่จะได้เข้าศึกษา ณ โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์
ถ้าจะมีใครสักคนเข้าใจเวทมนตร์แต่นมนานกาเลที่ทำให้หนังสือและปากกาขนนกนี้ทำหน้าที่อย่างที่มันทำมาตลอด ก็ไม่เคยมีผู้ใดออกมาอ้างตัวว่าเข้าใจมันเลย แต่กระนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันช่วยให้เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนประหยัดเวลาในการอธิบายเรื่องน่าเหนื่อยหน่าย (อย่างที่ทำให้ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ต้องถอนหายใจมาแล้วครั้งหนึ่ง) ให้บรรดาผู้ปกครองอารมณ์ร้อนเข้าใจว่าทำไมบุตรหลานของพวกเขาถึงไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ การตัดสินของหนังสือและปากกาขนนกนี้เป็นที่สิ้นสุด ไม่เคยมีเด็กคนใดที่เข้าเรียนที่นี่โดยที่ชื่อของเขาไม่ถูกจดจารึกไว้ในหน้ากระดาษเหลือง ๆ ของหนังสือเล่มนี้
ในช่วงเวลาอันจำเพาะเจาะจงที่เด็กคนหนึ่งแสดงสัญญาณของการมีเวทมนตร์ออกมา ปากกาขนนกดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าทำจากขนของตัวออเกอรี่นี้ จะยกตัวลอยขึ้นจากขวดหมึกของมันและบรรจงจารึกชื่อของเด็กลงบนหน้ากระดาษของหนังสือนั้น (เป็นที่ทราบกันดีว่าขนของออเกอรี่ไม่ดูดหมึก อีกทั้งขวดหมึกที่ว่าก็ไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ยังไม่มีใครทำการศึกษาวิเคราะห์อย่างจริงจังเลยว่าของเหลวสีเงินที่ไหลออกมาจากปากกาขนนกวิเศษนี้คืออะไร)
บางคนที่เฝ้าสังเกตกระบวนการนี้ (อาจารย์ใหญ่ทั้งชายและหญิงหลายคน สนุกกับการอยู่เงียบ ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงในหอคอยที่ประดิษฐานหนังสือและปากกาขนนก ด้วยหวังว่าจะได้เห็นตอนที่มันทำงานกับตาสักครั้ง) เห็นพ้องว่าปากกาขนนกน่าจะถูกสร้างให้ตัดสินอย่างอะลุ่มอล่วยมากกว่าหนังสือ แค่การปรากฏของเวทมนตร์เพียงนิดหน่อยก็ทำให้ปากกาขนนกทำงานได้แล้ว แต่ถ้าเทียบกันกับหนังสือพบว่ามันมักจะพับตัวเองปิดลงในทันที และจะไม่ยอมให้มีการขีดเขียนลงไปจนกว่ามันจะรับรู้ได้ถึงความสามารถทางเวทมนตร์ที่น่าทึ่งและมากเพียงพอ
ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่ เนวิลล์ ลองบัตท่อม เกิด ปากกาขนนกจึงพยายามเขียนชื่อของเขาลงไป แต่กลับถูกปฏิเสธโดยหนังสือ มันพับตัวปิดลงทันที แม้แต่ผู้บำบัดผดุงครรภ์ของ อลิซ ลองบัตท่อม ก็ไม่ทันสังเกตเห็นว่าหนูน้อยเนวิลล์ทำการขยับผ้าห่มให้กระชับตัวมากขึ้นด้วยตัวเองหลังจากคลอดออกมาได้เพียงไม่นาน เธอทึกทักเอาว่าพ่อของเขาเป็นคนช่วยให้เด็กทารกรู้สึกอุ่นสบายขึ้นมากกว่า ครอบครัวของเนวิลล์พลาดการแสดงออกทางเวทมนตร์อ่อน ๆ ของเขามาตลอด และไม่เคยสังเกตเลยจนกระทั่งเขาอายุได้ 8 ขวบ ที่ความรู้สึกผิดหวังของบรรดาคุณปู่คุณย่าและการยึดมั่นในกฎเหล็กของหนังสือยอมรับว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นพ่อมดหลังจากที่รอดชีวิตจากการตกจากที่สูงซึ่งอาจทำให้เขาตายได้
ที่จริงแล้ว ความเข้มงวดของหนังสือก็มีวัตถุประสงค์ของมันอยู่ สถิติของมันในการกันคนที่เป็นสควิบออกจากการเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์นั้นไร้ที่ติมาก เด็ก ๆ ไร้เวทมนตร์ที่เกิดจากแม่มดและพ่อมดอาจมีร่องรอยการแผ่รังสีของเวทมนตร์เล็กน้อยบ้างในบางครั้งโดยมีสาเหตุจากพ่อแม่ของพวกเขา แต่เมื่อเวทมนตร์ของพ่อแม่จางหายจากพวกเขาไป ก็เป็นที่ชัดเจนว่าเด็กเหล่านี้ไม่มีความสามารถในการร่ายคาถาใด ๆ ได้ ความไวของปากกาขนนกเมื่อจับคู่กับความไม่โอนอ่อนของหนังสือทำให้พวกมันไม่เคยตัดสินผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ต้นฉบับภาษาอังกฤษ: https://www.pottermore.com/writing-by-jk-rowling/the-quill-of-acceptance-and-the-book-of-admittance
5 Comments
เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากจริงๆ
ขอบคุณมากครับที่เอามาให้อ่าน แต่ผมอ่านแล้วงงๆ ก็เลยไปเปิดภาษาอังกฤษอ่าน พบว่าแปลไม่ตรง/ผิดค่อนข้างเยอะมากเลยครับ ทำให้อ่านแล้วงงนิดๆ ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้นะครับ (ผมตัดเอาข้อความาจากในภาษาอังกฤษ เป็นหลัก)
หอคอยปิดตาย
“…locked tower” — หอคอยที่ถูกล็อก/ลั่นกุญแจ (ไม่น่าจะปิดตาย เพราะว่าก็ยังใช้งานอยู่)
นับตั่งแต่สี่ผู้ก่อตั้งวางมันไว้ ปราสาทหลังนี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
“…since the four founders placed it there on completion of the castle…” — ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งทั้งสี่ได้วางมันไว้เมื่อสร้างปราสาทเสร็จ (พอสร้างปราสาทเสร็จก็วางไว้ ไม่ได้วางไว้แล้วทำให้ปราสาทเสร็จสมบูรณ์)
หนังสือที่หุ้มด้วยหนังมังกรดำ
“…bound in…” น่าจะแปลว่า “ยึดไว้หรือร้อยไว้” มากกว่าคือเอาหนังมังกรดำ(black dragon-hide) ลอกๆ (peeling) มาร้อยตรงสัน มากกว่าเอามาหุ้มเป็นปกหนังสือ
หากใครสักคนเข้าใจถึงพลัง….
“If anybody understands what powerful and long-lasting magic causes this book and quill to behave as they do, nobody has ever confessed to it, doubtless because (as Albus Dumbledore once sighed) it saved the staff tedious explanations to parents…” ไม่มีใครสักคนที่เข้าใจถึงเวทมนต์อันยาวนานและทรงพลานุภาพที่ทำให้หนังสือเล่มนี้และปากกาขนนกทำงานได้ อย่างไรก็ตาม (ดังที่ครั้งหนึ่งอัลบัส ดัมเบิลดอร์เคยกล่าวไว้อย่างเบื่อหน่าย) มันช่วยประหยัดประหยัดคำอธิบายอันน่าเบื่อที่เจ้าหน้าที่ต้องอธิบายให้แก่ผู้ปกครอง…”
ประโยคข้างต้น เป็นประโยคที่อ่านแล้วคิดว่าไม่น่าจะต้องแปลตรงตัวตามภาษาไทยครับ เพราะจะทำให้สับสน ทั้งนี้คำว่า sigh ในที่นี้ ไม่น่าจะแปลว่าถอนหายใจเพียงอย่างเดียว แต่มาพร้อมกับประโยคด้านหลังน่าจะเป็นการกล่าวแล้วก็ถอนหายใจ คือกล่าวอย่างเบื่อหน่าย (ผมว่าไม่น่าจะแปลว่าทอดถอนใจด้วย) และ saves the staff explanation แปลว่าประหยัดคำอธิบายให้แก่เจ้าหน้าที่ ไม่ได้เปลว่าประหยัดเจ้าหน้าที่ครับ
การตัดสินใจของหนังสือ…
“The Book and Quill’s decision is final and no child has ever been admitted whose name has not first been inscribed on the book’s yellowing pages” — การตัดสินใจของหนังสือและปากกาขนนกถือเป็นที่สิ้นสุด เด็กคนไหนก็ตามที่ไม่ได้ถูกจารึกชื่อไว้บนหน้ากระดาษที่เก่าเหลืองของหนังสือเล่มนี้ก็จะไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าเรียน (แปลตรงตัวคือ ไม่มีเด้กคนไหนที่จะได้รับการตอบรับ — การเข้าเรียน // ถ้าเชื่อของพวกเขาไม่ได้ถูกจารึกในหนังสือเสียก่อน)
ช่วงเวลาที่แม่นยำนี้คือหลักฐานชื่อของเด็กคนแรก…
“At the precise moment that a child first exhibits signs of magic” — ในช่วงเวลาสำคัญที่เด็กคนหนึ่งแสดงหลักฐานทางเวทมนต์ออกมาเป็นครั้งแรก (ไม่ใช่เด็กคนแรกนะครับ)
ป.ล. precise แปลว่าแม่นยำจริงครับ แต่ไม่ควรนำมาใช้ในบริบทนี้
สัญลักษณ์ทางเวทมนตร์ของปากกาขนนก…
“the Quill, which is believed to have been taken from a Augurey, floats up out of its inkpot and attempts to inscribe…” — ปากกาขนนกซึ่งเชื่อกันว่าทำมาจากขนของนกออเกอรี่ จะลอยขึ้นจากกระปุกหมึกและพยายามที่จะจารึกชื่อ….
ของเหลวสีเงิน….
“silvery fluid flowing from the enchanted Quill is” — ของเหลวสีเงินที่ไหลออกจากปากกาขนนกวิเศษคืออะไร
มีเพียงคนไม่กี่คน…
“Those few who have observed the process…agree that the Quill might be judged more lenient than the Book” — คนไม่กี่คนที่เคยสังเกตขั้นตอนนี้เห็นพ้องต้องกันว่าปากกาขนนกมีเมตตากว่าหนังสือ (คำว่า might be judged คือปากกาถูกตัดสินโดยคนที่เห็นครับ ไม่ใช่ปากกาเป็นคนตัดสินหรือพิพากษา)
ทว่าหนังสือ…
“The Book , however, will often snap shut, refusing to be written upon until…” — ในทางตรงกันข้าม บ่อยครั้งที่หนังสือจะปิดลงอย่างฉับพลัน (snap shut) และปฏิเสธที่จะให้เขียนอะไรลงไปจนกว่า…
ปากกาขนนกยินยอมรับรองด้วยการเขียนชื่อ…
“the Quill attempted to write his name and was refused…” — ปากกาขนนกพยายาที่จะเขียนชื่อของเขาแต่กลับถูก….
หมอผดุงครรภ์ของอลิซ…
“Even the midwife who attended Alice Longbottom had failed to notice that Neville managed to shift his blankets more snugly over himself moments after birth, assuming that his father had tucked the baby in more securely.” — แม้แต่พยาบาลผดุงครรภ์ที่ดูแลอลิส ลองบัตท่อมยังพลาดที่จะสังเกตเห็นว่า ภายหลังจากที่คลอด หนูน้อยเนวิลล์ได้จัดการห่อผ้าห่มให้อุ่นสบายมากขึ้นด้วยตัวเอง เธอเข้าใจไปเองว่าพ่อของหนูน้อยเป็นคนห่อให้แน่นหนาปลอดภัยมากขึ้น
ครอบครัวของเนวิลล์พลาดการรับรู้…
Neville’s family persistently missed faint signs of magic in him and not until he was eight years old did either his disappointed great aunts and uncles, or the old stickler of a Book, accept that he was truly a wizard, when he survived a fall that should have killed him. — ครอบครัวของเนวิลล์ไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของสัญญาณทางเวทมนต์เอาเบาบางของเนวิลล์อยู่นาน จนกระทั่งเขาอายุได้แปดขวบ เมื่อเขาเอาชีวิตรอดจากการตกที่น่าจะทำให้ตาย เมื่อนั้นย่าและปู่น้อยของเนวิลล์ซึ่งแสนจะผิดหวังเรื่อยมากและแม้แต่หนังสือที่ยึดมั่นถือมั่นเล่มนั้น ก็ได้ยอมรับว่าเนวิลล์เป็นพ่อมดอย่างแท้จริง
ในความจริงแล้ว…
In fact, the Book’s sternness has a purpose: its track record in keeping Squibs out of Hogwarts is perfect. — ในความเป็นจริง ความเข้มงวดของหนังสือก็มีเหตุผลของมัน เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูบันทึกแล้ว การคัดกลุ่มสควิบออกจากฮอกวอตส์เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กไร้เวทมนตรื….
Non-magic children born to witches and wizards occasionally have some small, residual aura of magic about them due to their parents, but once their parents’ magic has worn off them it becomes clear that they will never have the ability to perform spells. — เด็กที่ไม่มีเวทมนตร์ที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นพ่อมดแม่มดนั้น บางครั้งมีพลังทางเวทมนตร์ตกค้างซึ่งได้รับมาจากพ่อแม่หลงเหลืออยู่เล็กน้อย แต่เมื่อพลังตกค้างเหล่านั้นจางหายไป พวกเขาก็จะไร้ความสามารถในการใช้คาถาโดยสิ้นเชิง
ต้องขอบคุณมากเช่นกันครับที่สละเวลามาตรวจเช็คในส่วนที่ผิดพลาดให้เราครับ จะำไปแก้ไขให้ดีขึ้นครับ
ยินดีดีครับ หากได้นำความคิดเห็นผมไปใช้แล้ว จะลบคอมเมนท์ก็ไม่มีปัญหานะครับ
I Like Harry potter