จินนี่ พอตเตอร์ นักข่าวควิดดิชประจำเดลี่พรอเฟ็ต รายงานจากทะเลทรายปาตาโกเนีย
บัลแกเรีย 170 – นอร์เวย์ 20
อีกหนึ่งในความพ่ายแพ้ที่คาดไม่ถึงครั้งใหญ่ของการแข่งขัน ฝั่งบัลแกเรียที่หลายๆ คนเห็นว่าโชคดีเหลือหลายที่ผ่านฉิวเขี่ยหนึ่งในคู่แข่งไปได้ ส่งให้นอร์เวย์บินกลับบ้านพร้อมกับถามตัวพวกเขาเองว่าเกมมันพลิกผิดพลาดไปได้เร็วอย่างนี้ได้ยังไง
บัลแกเรีย ซึ่งผ่านแมทช์แรกไปอย่างง่ายดายเมื่อทีมนิวซีแลนด์เหลือเพียง 6 คน หลังจากการถูกส่งตัวออก โชว์ฟอร์มดีทันทีที่เสียงนกหวีดดัง นิโคลา วาซซิเลวา (Nikola Vassileva) รับหน้าที่ทำคะแนน 2 ประตูแรกให้ฝ่ายบัลแกเรีย แต่ลาร์ส ลุนเดคัม (Lars Lundekvam) จากทีมนอร์เวย์ก็ตามมาทำคะแนนตีเสมอได้ในภายหลัง
ฉากจบของเกมมาถึงแบบแทบไร้การเตือน การบินพุ่งลงกะทันหันของวิกเตอร์ ครัม (Viktor Krum) ดูเหมือนการหลบหลีกบลัดเจอร์ธรรมดาๆ และซีกเกอร์นอร์เวย์ ซีกริด คริสโตฟเฟร์ชอง (Sigrid Kristoffersen) ไม่ใช่แค่เพียงไม่สนใจที่จะสังเกต แต่ดันมองไปทางอื่น จนเมื่อครัมชูมือขวาของเขาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาได้กำชัยชนะให้ทีมบัลแกเรียในนาทีที่ 42 มีคนเพียงส่วนน้อยที่จะเห็นใจคริสโตฟเฟร์ชอง ผู้ซึ่งบินตรงดิ่งมาที่พื้นแล้วโหม่งหัวเธอกับพื้นอย่างจังจนกระทั่งคีปเปอร์ คาร์ล แวง (Karl Wang) ลากขาเธอออกไป ครัมผู้ซึ่งถูกนักข่าวหลายรายเขียนโจมตีว่า แก่และช้าเกินกว่าจะแข่งแล้วในวัย 38 ปีนั้นแจ้งเกิดในสนามท่ามกลางความสะใจระคนพอใจโดยเหล่าแฟนๆ
อ็อดวาร์ สปิลลุม (Oddvar Spillum) โค้ชใจสลายของทีมนอร์เวย์ไม่มีความคิดเห็นใดๆให้กับผู้สื่อข่าว นอกจากสะอื้นไห้เป็นวรรคเป็นเวร ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการแข่งขันที่โชคร้ายสุดกู่ของทีมนอร์เวย์ที่ตามปกติแล้วเก่งโดดเด่น อย่างไรก็ตามแม้จะดูไม่มีเหตุผล แฟนๆหลายคนยังถือโทษโกรธเซลมา (Selma) สัตว์ประหลาดในทะเลสาบนอร์เวย์ที่ทีมเอามาเป็นมาสคอตและเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดในงานพิธีเปิด เซลมากำลังหลบซ่อนอยู่ในสถานที่ลับในคืนนี้
