ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์: คำแนะนำเบื้องต้นก่อนตามรอยที่สหราชอาณาจักร

สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน เข้ามาอ่านในส่วนนี้แสดงว่าอยากเที่ยวตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์กันใช่ไหมล่ะ ^^ ถ้างั้นพี่ Lily จัดให้ค่ะ ในส่วนตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ประเทศสหราชอาณาจักร หรือ United Kingdom พี่จะอนุญาตให้ผู้อ่านใช้เพนซิฟดูความทรงจำของพี่ระหว่างไปตามรอยแฮร์รี่กัน ช่วงพี่ไปเรียนต่อป.โท ตอนปี 2011-2012 นะคะ ถ้าพร้อมแล้วไปหาเพนซิฟมาตั้งรอเลย!!

อ๊ะ!! แต่ก่อนอื่น ในหน้านี้เราควรรู้ข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นเกี่ยวกับประเทศสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือกันซะหน่อยดีกว่านะ

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเทศสหราชอาณาจักร ฯ

พื้นที่:

ประเทศนี้มีพื้นที่เป็นเกาะใหญ่และเกาะอื่นๆอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือบริเวณทวีปยุโรปทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประเทศนี้รวมประเทศย่อย ๆ 4 ประเทศหลักมารวมกัน คือ ประเทศอังกฤษ  ประเทศสก็อตแลนด์  ประเทศเวลส์ และ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ การเดินทางใน 4 ประเทศย่อยนี้ สามารถเดินทางถึงกันได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าแยก ถ้าจะมาเที่ยวจากประเทศไทยต้องทำวีซ่าแน่นอนค่ะ ซึ่งจะต้องใช้วีซ่าแบบไหน จ่ายเงินเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้จากที่นี่ค่ะ

สภาพอากาศและฤดูกาล:

ประเทศนี้มีฤดูหลักๆ 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)  ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)  ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)  และ ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ถึงจะแยกเป็นช่วงเวลาได้คร่าว ๆ ดังนี้ แต่เอาเข้าจริงอากาศก็เพี้ยนได้ง่าย ๆ ค่ะ บางปีก็หนาวเร็วหิมะตกตั้งแต่พฤศจิกายน บางปีหนาวช้าหิมะตกน้อยมาก ๆ มาตกเอาตอนมกราคม บางปีก็ร้อนเกินไป บางปีก็พายุเข้าน้ำท่วมหนัก ทั้งนี้ควรเช็คอุณหภูมิก่อนไปเที่ยวดีที่สุดค่ะ จะได้เตรียมชุดไปเที่ยวถูกฤดูกาล เบื้องต้นอากาศโดยทั่วไปในฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ที่ราว ๆ 7-15 องศาเซลเซียส  ในฤดูร้อนจะอยู่ที่ราว ๆ 19-29 องศาเซลเซียส  ในฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ที่ราว ๆ 11-19 องศาเซลเซียส  และ ในฤดูหนาวจะอยู่ที่ราว ๆ -5-7 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับย่านและภูมิภาคด้วยค่ะ เพราะเกาะค่อนข้างใหญ่อากาศเลยหลากหลาย นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เรื่องอากาศของประเทศนี้เลย โดยเฉพาะลอนดอน คือ ฝนตกค่ะ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตก และส่วนมากมักจะตกแบบยิบ ๆ ไม่แรงออกแนวตกมากวนประสาทค่ะ แต่บางครั้งถ้ามรสุมเข้าก็ฝนตกแรง และลมแรงเอาการค่ะ

เวลา:

ประเทศนี้จะเวลาต่างจากไทยคือช้ากว่า 7 ชั่วโมง ยกเว้นในช่วง BST หรือ British Summer Time (ช่วงวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม-วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม) เวลาจะช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง ในช่วงฤดูร้อนที่ประเทศนี้พระอาทิตย์จะตกช้ามาก เอาง่ายๆนะคะตอนปี 2011 ที่พี่ไปเรียน เดือนกรกฎาคม เวลาปาไป 4 ทุ่มแล้วพระอาทิตย์ยังไม่ตกเลยค่ะ แถมดูเหมือนเวลาบ่าย 4 โมงเสียนี่ -,-‘

ระบบเงินตรา:

ค่าเงินที่ใช้กันในประเทศนี้ คนไทยเรียกกันว่า ค่าเงินปอนด์ (£: pound) แต่จริงๆต้องออกเสียงว่า ‘เพานด์’ (เพา+เสียง ‘น’ ขึ้นจมูก+เสียง ‘ด’ เป็นตัวสะกดปิดท้าย) นะคะ ถ้าเรียกว่า ‘ปอนด์’ ฝรั่งฟังไม่เข้าใจ พี่ Lily ช่วยไม่ได้นะ โดยค่าเงินนี้ถ้าคิดเป็นเงินไทย ก็แล้วแต่จังหวะความผันผวนของค่าเงินค่ะ ซึ่งผู้อ่านก็ต้องเช็คดูค่าเงินจากธนาคารดูนะคะ ตัวอย่างเช่น เว็บธนาคารไทยพาณิชย์

เบื้องต้น 1 pound = 100 pence

*penny เป็นเอกพจน์ pence เป็นพหูพจน์ บางครั้งเรียกสั้นๆว่า p เช่น 1 p = 1 penny

ถ้าเป็นเหรียญจะมีให้ใช้หลักๆตามนี้ค่ะ (เรียงตามภาพ)

1 penny / 2 pence / 5 pence / 10 pence / 20 pence / 50 pence / 1 pound / 2 pounds

images

ถ้าเป็นธนบัตรจะมีให้ใช้หลักๆตามนี้ค่ะ (เรียงตามภาพ)จริงๆมีธนบัตรใบละ 1 ปอนด์ กับ 100 ปอนด์ด้วย แต่หายากอยู่นะ

5 pounds / 10 pounds / 20 pounds / 50 pounds

england-pound-sterling 

ระบบขนส่งสาธารณะ:

ประเทศนี้มีระบบขนส่งที่ดีมากประเทศหนึ่งเลยค่ะ ที่โดดเด่นสุดเลยก็คือระบบรถไฟ ปกติเวลาท่องเที่ยวในประเทศนี้การใช้รถไฟจะสะดวกสบายที่สุดค่ะ ค่อนข้างตรงเวลาด้วย (ยกเว้นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เช่น พายุเข้า หิมะตก รถไฟชนกัน ฯลฯ) แต่ในเรื่องราคาก็สูงอยู่นะคะ เพราะราคาตั๋วจะขึ้นอยู่กับประเภทตั๋ว และช่วงเวลาเดินทาง กับช่วงเวลาจองด้วยค่ะ ถ้าไม่แปลนการจองให้ดีๆก่อน หรือมีบัตรส่วนลดก็ต้องจ่ายหนักเอาการค่ะ

ตัวอย่างเช่น เที่ยวรถไฟขาเดียวจากลีดส์ไปลอนดอน ถ้าเลือกตัดสินใจไปแบบปัจจุบันทันด่วนเลย อาจเจอราคาที่ราว ๆ 100 ปอนด์ต่อเที่ยวได้ค่ะ แต่ถ้าจองตั๋วล่วงหน้าก่อน 3 เดือน (เขามีการอนุญาตให้จองตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน3เดือน) อาจได้ตั๋วราคา 10 ปอนด์ค่ะ นอกจากนี้บัตรสมาชิกที่เหมาะกับผู้ใช้รายประเภทต่างๆก็ช่วยลดราคาได้อีกค่ะ อย่างพี่ Lily มีบัตรสมาชิกRail Card 16-25 แบบ 1 ปี (บัตรนี้ผู้สมัครจะต้องอายุระหว่าง 16-25 ปี หรือเป็นนักเรียนนักศึกษาที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) พี่ก็ใช้สิทธิ์ลดราคาค่าตั๋วได้ค่ะ ก็จะเป็นว่าจ่ายแค่ 2 ใน 3 ของราคาจริงค่ะ

นอกจากนี้ตั๋วรถไฟยังมีหลายประเภทค่ะ ทั้งแบบฟิตวันเวลาชัดเจนก็จะเป็นตั๋วAdvance แบบไม่ฟิตเวลาชัดเจนก็จะเป็นAnytime โดยราคาก็จะต่างกันไปค่ะ สำหรับข้อมูลรถไฟดูได้ที่นี่ค่ะ

ในกรณีที่ไม่อยากนั่งรถไฟ ก็มีรถบัสทั้งแบบวิ่งในตัวเมืองและวิ่งระหว่างเมืองด้วยค่ะ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ราคาถูกกว่ารถไฟ แต่ก็ต้องดูด้วยค่ะว่าเส้นทางอ้อมโลกไปไหม หรือดูช่วงเวลาดี ๆ เพราะราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภทของตั๋วและช่วงเวลาด้วย นอกจากนี้โดยปกติรถบัสจะไม่มีป้ายไฟ หรือเสียงตามสายคอยบอกว่า ต่อไปสถานีไหนแล้วเหมือนที่รถไฟมีนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจเรื่องเส้นทาง และสถานีหรือป้ายที่จะลงละก็ อาจหลงทางได้ค่ะ (เพราะไม่มีกระเป๋ารถเมล์คอยช่วยด้วย ส่วนคนขับรถโดยทั่วไปเขาก็ไม่บอกให้หรอกค่ะว่าถึงที่แล้ว)สำหรับป้ายรถรอรถบัสก็แล้วแต่ที่ค่ะ บางที่มีป้ายไฟคอยบอกว่าอีกกี่นาทีรถสายไหนมา แต่บางที่ก็ไม่มีค่ะ แย่สุดบางที่ก็ไม่มีตารางรถติดไว้ให้ด้วยค่ะ ถ้าไม่ดาวน์โหลดหาข้อมูลเที่ยวรถไว้เผื่อ อาจไม่มีรถกลับได้ T^T ข้อมูลสถานีรถบัส ดูได้ที่นี่ค่ะ

นอกจากนี้บางเมืองก็จะมีระบบขนส่งอื่น ๆ เช่น รถไฟใต้ดินที่ลอนดอน, รถรางที่แมนเชสเตอร์, เรือเฟอร์รี่จากลิเวอร์พูลไปไอร์แลนด์เหนือ และสายการบินภายในประเทศ เป็นต้นค่ะ ในส่วนของรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน ตั๋วจะมีหลากหลายชนิดค่ะ มีทั้งแบบตั๋วต่อเที่ยว ตั๋ววัน ตั๋วเติมเงิน ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บนี้ดูนะคะ เลือกดูว่าตั๋วแบบไหนคุ้นค่ากับการเที่ยวของเราที่สุด ส่วนรถแท็กซี่ราคาถือว่าแพงอยู่ค่ะตามมาตรฐานประเทศที่ค่าครองชีพสูง ทางที่ดีถ้าไม่ลำบากจริง ๆ เวลาเที่ยวไม่แนะนำให้นั่งรถแท็กซี่ค่ะ จะได้ประหยัดเงิน

ระบบเครือข่ายมือถือ:

พอมาถึงหัวข้อนี้ ผู้อ่านอาจจะงง ทำไมต้องรู้ด้วย? คือว่าเวลาจะเที่ยวตามรอยนะคะ บางที่แผนที่แบบแผ่นพับฟรีก็หายากซะเหลือเกิน ไม่ก็ต้องจ่ายเงินซื้อค่ะ หรือไม่สถานที่ที่จะไปก็ชนบทเกินค่ะ มีรถผ่านไม่บ่อย เพราะฉะนั้นถ้ามีอินเตอร์เน็ต 3G หรือ 4G ช่วย กับมือถือที่โทรหาใครหรือหารถกรณีฉุกเฉินได้ก็จะดีค่ะ

สำหรับเครือข่ายมือถือของประเทศนี้มีเยอะมากค่ะ เช่น O2, T-Mobile, Orange, Virgin, Vodafone และอื่นๆอีกมากมายเราสามารถเลือกโปรโมชั่นตามที่เราชอบและคิดว่าคุ้มได้เลยค่ะสามารถไปอ่านดูที่เว็บของเครือข่ายนั้นๆเลย มีทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน (Pay as you go) ตัวอย่างเช่น สมัยเรียนพี่ใช้เครือข่าย O2 แบบเติมเงินค่ะ เดือนนึงเติมเงิน 10 ปอนด์ (ตอนนั้นตีไปว่าประมาณ 500 บาท) ก็จะได้สิทธิ์ เช่น ใช้ Wifi ของร้าน O2 ได้ฟรี ได้ 3G ฟรี 500MB ส่งเมสเซจได้ฟรี 1,000 ข้อความ ได้โทรฟรี 100 นาที

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน:

ที่อยู่: Royal Thai Embassy, 29-30 Queen’s Gate, London, SW7 5JB

ข้อมูลติดต่ออื่น ๆ >>คลิกที่นี่<<

ข้อมูลการทำวีซ่า:

วีซ่ามีหลายประเภท เข้าไปอ่านได้ที่ >>คลิกที่นี่<< และ >>คลิกที่นี่<<