ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์: เมืองเอดินบะระ

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านชาว Potterhead ทั้งหลาย วันนี้พี่ Lily จะพาไปตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เมืองเอดินบะระ (Edinburgh) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสก็อตแลนด์กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปหยิบเพนซิฟของแต่ละคนมาวางเลย พี่จะเทความทรงจำของพี่ใส่แล้วนะ เอาล่ะ ไปกัน!!

วันที่ 4 กรกฎาคม 2011

วันนี้เป็นวันเริ่มเรียนในมหาวิทยาลัยลีดส์ครั้งแรก แต่เป็นคอร์สเตรียมตัวสำหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษานะ แต่ว่าวันแรกจะได้เรียนแน่เหรอ? แล้วก็จริง…..วันนี้ยังไม่มีอะไรเลย มีก็แค่เข้าไปนั่งฟัง ๆๆๆๆ พวกข้อมูลที่สำคัญสำหรับการอยู่-การเรียนที่นี่…..แต่ที่เด็ดสุด จุดประกายต่อมความอยากเที่ยวจัง ๆ ก็คือ บริษัททัวร์ชื่อ Don’t be a tourist มาพูดโปรโมททริปเที่ยวเมืองต่าง ๆ แล้ว 1 ในนั้นคือไป Edinburgh เดือนสิงหานี้ โดยจะไปช่วงที่มีงาน Edinburgh Festival ด้วย เห็นเขาบอกว่าเป็นงานเทศกาลฤดูร้อนที่จัดทุกปี แล้วก็เป็นเทศกาลดังมากของ UK ด้วยแฮะ มีการแสดงเยอะมากให้ชม ทั้งแบบโชว์ฟรีตามท้องถนน แล้วก็แบบเสียเงินเข้าไปดูในโรงละคร อืม…..เอาไงดีล่ะ น่าสนนะเนี่ย อยากไป ๆๆๆๆๆๆๆ!! อีกอย่างก็ชักอยากเริ่มทริป ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้วสิ งั้นเดี๋ยวกลับหอไปเซิร์ชข้อมูลก่อนดีกว่า ^^

——————– หลายชั่วโมงผ่านไป ——————–

โอเคละ เท่าที่ดู ถ้าไปเที่ยวเอดินบะระแบบไปเอง นั่งรถไฟจากลีดส์ไปก็ประมาณ 3 ชั่วโมงต่อเที่ยว ถ้าจัดการค่าที่พัก ค่ารถไฟเองหมด ราคาก็พอๆกัน จนถึงแพงกว่าแบบไปกับกรุ๊ปทัวร์ของบริษัทนี่ (ราคากรุ๊ปทัวร์คือ 99 ปอนด์) อืม!! เอาไงดีน้า จะลุยเดี่ยวดีไหม แต่ตอนนี้ก็ยังขี้เกียจจัดทริปเองแฮะ งั้นไปกับพวกเพื่อนที่มหาวิทยาลัยดีกว่า แลจะมีหลายคนสนใจไปด้วย ไปกับกรุ๊ปทัวร์ละกัน…..มีไกด์คอยเล่าอธิบายที่เที่ยวบ้างก็ดี ฟังอย่างเดียวเลยไง ฮ่า ๆ แล้วเดี๋ยวช่วงปล่อยเที่ยวอิสระ ค่อยไปเที่ยวตามรอยแฮร์รี่แล้วกัน ^^

วันที่ 13 สิงหาคม 2011

วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ (เหรอ!?) เพราะต้องไปขึ้นรถของบริษัททัวร์ที่หน้ามหาวิทยาลัย แล้วราว ๆ 8 โมง รถโค้ชก็พาเราออกเดินทาง เย้!! เส้นทางรถก็ผ่านเมืองหลายเมืองไปเรื่อยนะ จนกระทั่งรถมาหยุดพักที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวเมืองเดอแรม (Durham) เห็นว่ามันเป็นกฎเกณฑ์ของประเทศนี้ด้วยหรือไงนี่แหละ ถ้าขับรถสาธารณะทางไกล ต้องมีแวะพักบ้าง เพื่อความปลอดภัยของคนขับและคนนั่ง ที่ปั๊มนี้มีอะไรสนุกๆให้เราเล่นด้วย ^^ นั่นก็คือตู้เกมหยอดเหรียญ ที่ข้างในมีของเล่นแฮร์รี่ พอตเตอร์ในไข่พลาสติก…..อ่ะ! งั้นก็เล่นซะหน่อยสิ เหรียญ 1 ปอนด์ แอ็กซีโอ!!! และผลก็คือ…..ได้ป๋าเนปค่า เอ๊ะ!ยังไง ลิลี่ได้เซฟ หึๆ

จากนั้นรถโค้ชของเราก็ออกเดินทางกันอีกครั้ง แล้วก็พาแวะถ่ายรูปอีกจุดหนึ่งก็คือ บริเวณชายแดนระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศสก็อตแลนด์ เอ้า!! มาถ่ายรูปกันๆ

พอถ่ายรูปกันหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาไปต่อ คราวนี้นั่งรถยาวไปถึงตัวเมืองเอดินบะระเลยค่า รถโค้ชจะพาพวกเราไปลงที่พักกันก่อนก็คือที่ Art Roch Hostel (บริษัททัวร์จัดให้) แต่ก่อนที่จะถึงที่พัก รถต้องวิ่งผ่านเข้าตัวเมืองด้วย แล้วเราก็เห็นสถานที่ 1 ในที่ๆเราจะตามรอยฯแล้ว…..ที่นั่นก็คือ The Balmoral Hotel!! ถ่ายรูปๆก่อน แล้วเดี๋ยวจะเดินมาชมนะ ^^ และหลังจากรถพาพวกเราไปถึงที่พักเรียบร้อย ทางทัวร์ก็พาพวกเราเดินเที่ยวชมเมืองทันที ไกด์ก็เล่าที่มาแต่ละที่ให้ฟัง ก็ฟังกันไป แต่เอาจริงๆนะ เราฟังแล้วก็ลืมซะมากกว่า ใจน่ะลอยจะไปตามรอยฯแล้ว ^^

ราว ๆ บ่าย 2 โมงกว่า ทัวร์ปล่อยให้เรามีเวลาอิสระแล้ว ใครอยากไปชมการแสดงไหนก็ไปกันได้เลย ถ้าใครชอบของฟรีไม่เสียตัง ก็ดูตามท้องถนนนั่นแหละ เดินไปที่ไหนก็ได้ยินเสียงปี่สก็อตโหยหวนได้บรรยากาศสก็อตแลนด์ดีจริง

ส่วนเราน่ะเหรอ แน่นอน!! ถึงเวลาตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้วค่า!!!! แต่ก่อนอื่น หามื้อกลางวันกินก่อนเหอะ จะบ่าย 3 อยู่แล้ว ยังไม่มีอะไรลงท้องเลย T^T งั้นกินเมนูง่ายๆแบบสิ้นคิดละกัน…..ฟิชแอนด์ชิพค่ะ อ่อ! แล้วลองของหวาน (ควรเรียกว่างั้นไหมนะ?) แปลกๆของที่นี่ด้วยดีกว่า มันก็คือ…..ช็อกโกแลตแท่งตรามาร์สชุบแป้งทอด!! (ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมีงานวิจัยบอกว่า คนสก็อตแลนด์โดยเฉลี่ยอายุสั้น ก็กินอะไรพิเรนทร์นี่นะ)

พอกินกันเสร็จเรา พี่หนึ่ง ซาโยโกะ แล้วก็น้องกิ๊ฟก็มีแรงเดินเที่ยวกันต่อแล้ว พี่หนึ่งแยกตัวไปพบเพื่อนเค้าก่อน แล้วน้องกิ๊ฟก็แยกตัวไปเดินเที่ยวรอบเมืองเองต่อ เหลือเรากับซาโยโกะที่ตกลงกันว่า ลองไปหาซื้อตั๋วการแสดง Military Tattoo กันก่อนดีกว่า สำหรับการแสดงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของงาน Edinburgh Festival เลยก็ว่าได้ และส่วนใหญ่คนเขาก็เห่อกันมาดูมาก จองตั๋วข้ามปีเลยด้วย แต่พวกเราที่เพิ่งรู้จักงานนี้ ถือว่าโชคดีมากที่ยังหาตั๋วเข้าดูได้ แล้วก็ได้ดูรอบ4ทุ่มครึ่ง มีพลุปิดท้ายงานด้วย ดีๆชอบ!!

*ดูข้อมูลเพิ่มเติมงาน Edinburgh Festival >>คลิกที่นี่<< ข้อมูลการแสดง Military Tattoo >>คลิกที่นี่<<

เอาล่ะ! ถึงเวลาตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์จริงๆแล้ว เริ่มแรกไปที่ร้าน The Elephant House กันก่อนเลย โดยร้านนี้เป็น 1 ในร้านกาแฟที่ JK Rowling มาเขียนหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่ม 1 (ศิลาอาถรรพ์) กับเล่ม 2 (ห้องแห่งความลับ) บ่อยๆ จุดเด่นของร้านนี้คือ ในส่วนของห้องด้านในจะเห็นวิวปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) ด้วย…..แหม! วิวเหมาะกับการจินตนาการถึงปราสาทฮอกวอตส์จริงๆ >//<

นอกจากนี้ทางร้านเองก็เอาจุดขายที่ว่าเจเคเคยมานั่งเขียนแฮร์รี่ที่นี่โปรโมทร้านสุด ๆ กลายเป็นว่านอกจากเราจะเห็นรูปปั้นช้างที่เป็นคอนเซพท์ของร้านไปทั่ว เราจะเห็นรูป เห็นข่าวเจเคด้วย

และที่เด็ดอีกอย่าง ผนังในห้องน้ำจะมีข้อความถึงเจเคและแฮร์รี่เยอะมากๆ บางอันคนเขียนก็เล่นฮาดีนะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจัดไปสิ แสดงพลัง Potterhead ชาวไทยซะหน่อย แต่มีแค่ปากกาลูกลื่นเนี่ยสิ เขียนกับผนังไม่ค่อยติดเลย แถมเจ๊งตอนท้ายซะอีก T^T ไม่เป็นไร คราวหน้ามาใหม่จะพกปากกาเคมีมาซะเลย หึ!!

สำหรับวันนี้คนเข้าร้านเยอะมาก (อาจเพราะงานเทศกาลด้วยแหละ) แต่ยังไงก็จะเข้า!!! จะสั่งอะไรกินดีน้า เค้กก็น่ากิน แต่เพิ่งกินมื้อกลางวันมายังจุกๆอยู่เลย งั้นสั่งแค่คาปูชิโน่ละกัน แล้วไปนั่งชิวๆในห้องด้านใน เผื่อได้อารมณ์สุนทรีย์แบบเจเคตอนเขียนแฮร์รี่บ้าง ^^

พอชมบรรยากาศในร้านจนพอใจแล้ว กาแฟเต็มท้องแล้ว ก็ถึงเวลาไปต่อ…..เป้าหมายต่อไปก็คือโรงเรียนจอร์จแฮเรียต (George’s Heriot School) เป็นโรงเรียนเก่าแก่เกือบ 400 ปีแล้ว เด็กที่จะมาเรียนที่นี่ก็ออกจะเป็นพวกระดับคนรวยกัน ว่ากันว่าที่นี่เป็นคอนเซพท์แรงบันดาลใจเรื่องบ้านทั้ง 4 ของฮอกวอตส์ เพราะโรงเรียนนี้ก็เป็นโรงเรียนประจำ มีสังกัดบ้าน 4 หลัง ได้แก่ Lauriston (สีประจำบ้านคือสีเขียว), Greyfriars (สีประจำบ้านคือสีขาว), Raeburn (สีประจำบ้านคือสีแดง) และ Castle (สีประจำบ้านคือสีน้ำเงิน) ด้วย แต่ว่าพอมาถึงที่นี่ฝนก็ตกปอยๆอยู่นั่นแหละ สภาพการถ่ายรูป อัดวีดีโอค่อนข้างทุลักทุเลเสียจริง

และสถานที่ต่อไปก็คือร้าน The Spoon Cafe Bistro จริงๆแล้วร้านสพูนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับแฮร์รี่เลยนะ เพียงแต่ว่าที่อยู่ของร้านนี้ 6a Nicolson Street เป็นตำแหน่งที่ตั้งเดิมของร้านกาแฟ Nicolson’s ร้านที่น้องเขยเจเคเป็นหุ้นส่วน ซึ่งเป็น 1 ในร้านกาแฟที่เจเคไปเขียนแฮร์รี่ 2 เล่มแรกบ่อยๆเช่นกัน…..แล้วทำไมถึงกลายเป็นร้านสพูนล่ะ!? ก็ไม่มีไรมาก แค่เวลาเปลี่ยน ก็ต้องมีการเปลี่ยนมือเจ้าของกันบ้างน่ะนะ หลังจากร้านกาแฟ Nicolson’s เซ้งร้านไป ทำเลนี้ก็เปลี่ยนเป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารจีนชื่อว่า The Buffet King แล้วก็เปลี่ยนมือเจ้าของอีกที เป็นร้าน The Spoon Cafe Bistro หรือเรียกสั้น ๆ ว่าร้าน Spoon ก็ได้ เท่าที่ลองเข้าไปดูเว็บไซต์ของร้าน รูปแบบการตกแต่งร้านไม่เหลือวี่แววกลิ่นอายความขลังเรื่องแฮร์รี่อยู่เลย งั้นไม่เข้าไปละกัน

มาเที่ยวต่อกันที่ต่อไปเลย…..โรงแรมเดอะ บัลโมรอล (The Balmoral Hotel)

โรงแรมนี้เจเคมาพักเก็บตัว ทำสมาธิเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต (เล่ม 7) ที่นี่ ในห้อง 552 และในวันที่ 11 มกราคม 2007 เจเคก็เขียนเล่ม 7 เสร็จสมบูรณ์ และ (แอบซน) เขียนข้อความไว้บนรูปปั้นหินอ่อนเฮอร์มีสด้วย จะได้รู้กันไปว่าเขียนเสร็จแล้วนะ ^^

จะว่าไปก็อยากเข้าไปเห็นห้องนี้เหมือนกันนะ แต่เซิร์ชข่าวเจอว่า ปัจจุบันโรงแรมเปลี่ยนชื่อห้องดังกล่าวเป็น JK Rowling Suite และสนนราคาที่พักต่อคืนที่ 965 ปอนด์ (คิดง่าย ๆ ว่าเกือบ 50,000 บาท) …..โอ๊ย!! แม่เจ้า เราจน ไม่มีตังเข้าไปหรอก งั้นถ่ายรูป อัดวีดีโอแค่ข้างนอกโรงแรมก็ได้ T^T ฮือ ๆ ชีวิตต่างชนชั้นเลย

ตอนนี้ดูเวลาแล้วท่าทางตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์วันนี้แค่นี้ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ ไปเตรียมตัวดูการแสดง Military Tattoo คืนนี้ที่ปราสาทเอดินบะระดีกว่า ^^

วันที่ 14 สิงหาคม 2011

วันนี้ช่วงเช้าไกด์ทัวร์พาพวกเราเที่ยวเมืองอีกบางส่วน

และไปชมวิวเมืองที่ Cattle Hill ด้วย

หลังจากนั้นไกด์ก็ปล่อยอิสระประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนนัดให้มารวมตัวกันกลับลีดส์…..เอาล่ะ 4 ชั่วโมงต้องใช้เวลาให้คุ้ม!! งั้นเริ่มจากแวะไป Holyroodhouse Palace ก่อนแล้วกัน พระราชวังนี้เห็นว่า ปัจจุบันราชวงศ์อังกฤษก็ยังมาพักอยู่นะ ด้านในปราสาทตกแต่งสวยดี  แต่เสียดายเจ้าหน้าที่เขาไม่ให้ถ่ายรูปห้องต่างๆด้านในเลย จะถ่ายได้ก็เฉพาะสวน แล้วก็บริเวณด้านนอก

เสร็จจากเที่ยวพระราชวังโฮลี่รู้ดเฮ้าส์แล้ว ก็กลับมาสู่โหมดตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์อีกที่ก็คือ Edinburgh Castle เส้นทางการเดินจากพระราชวังโฮลี่รู้ดเฮ้าส์ไม่ยากเลย ก็แค่เดินย้อนเส้นทางหลักเอง เพราะ 2 สถานที่นี้อยู่กันคนละสุดปลายทางถนน Royal Mile ค่ะ

*ดูข้อมูลวัน-เวลาเข้าชม (จากหน้าเว็บหลัก) >>คลิกที่นี่<< ข้อมูลค่าเข้าชม >>คลิกที่นี่<<

(ขอแถมวิวตอนช่วงเย็น ในฤดูหนาวที่ปราสาทบ้าง ภาพเซ็ตล่างถ่ายไว้ตอนมาเที่ยวอีกครั้งวันที่ 13 ธันวาคม 2012 ค่ะ)

ไกด์ทัวร์บอกว่ามีการถ่ายทำหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่นี่ด้วย แต่เท่าที่เราดูสถานที่ และตามข่าวเราว่าไม่นะ แต่ที่แน่ๆ ทำเลที่ตั้งน่าจะเป็นแรงบันดาลใจไอเดียปราสาทฮอกวอตส์แน่ๆ และข่าวที่ ชาว Potterhead รู้กันอีกอย่างก็คือ ที่นี่เป็นที่จัดงานเปิดตัวหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม (เล่ม 6) ด้วย โดยจัดวันที่ 16 กรกฎาคม 2005 และเจเคก็มาอ่านหนังสือแฮร์รี่ให้ฟังในงานอีกตะหาก

พอเที่ยวเสร็จ ช็อปเสร็จจนพอใจแล้วก็ต้องกลับลีดส์ แต่ยังไงก็จะกลับมาเมืองนี้อีกแน่นอน!! ชอบๆ!! โดยเฉพาะมาตอนช่วงเทศกาลครึกครื้นดี ไว้คราวหน้าจะฉายเดี่ยวมาใหม่นะเอดินบะระจ๋า ^^บ๊ายบาย!

**************************************************************************************

ขอแถมอีกนิดนึงนะคะ ชาว Potterhead ทั้งหลาย

1. ถ้าใครอยากไปเขียนจารึกความรักที่มีต่อแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจเค ที่ผนังห้องน้ำร้าน The Elephant House พี่ Lily ขอแนะนำว่าเตรียมปากกาเคมีมาให้พร้อมนะคะ ปากกาลูกลื่นเขียนติดยากค่ะ ทริปเที่ยวเอดินบะระรอบหลังๆพี่ยังพกไปพร้อมเลย ^^

2. ถ้าอยากไปตอนช่วงงาน Edinburgh Festival เหมือนกัน ลองเข้าเว็บของงานเทศกาลดูดีๆนะคะ บางปีก็จะมีละครเวทีแนวล้อเลียนเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่บ้าง หรืออย่างปี 2012 (ทริปเที่ยวเอดินบะระรอบ 2) พี่ Lily อยากเล่าค่ะ แฮะๆ คือว่าพี่เห็นพี่ฌอน บิ๊กเกอร์สตาฟฟ์ (Sean Biggerstaff) นักแสดงบทโอลิเวอร์ วู้ด เขาทวิตข้อความบอกใน Twitter ของเขาค่ะ ว่าเขาจะแสดงละครเวทีเรื่อง An Appointment with the Wicker Man ในงานเฟสติวัลนี่ด้วย พี่เลยจองตั๋วรถไฟไป-กลับวันที่ 26 สิงหาคมทันทีเลย ฮ่า ๆ เพื่อพบหน้านักแสดงคนโปรดยอมลงทุนได้ค่ะ

โดยเรื่องนี้เป็นละครแนวตลกไร้สาระค่ะ เป็นเรื่องของนักแสดงหนุ่มชื่อดัง Rory (รับบทโดยพี่ฌอน) ที่ไปเกาะแห่งหนึ่ง เพื่อไปช่วยเทรนการแสดง และร่วมแสดงละครกับพวกนักแสดง (ซึ่งบางคนมีนิสัยแปลก ๆ และชอบลวนลามนักแสดงหนุ่ม) ของคณะละครเวทีพื้นบ้านบนเกาะนั้น แล้วเขาก็เจอกับความลับบางอย่างเข้า จนจะถูกเผาทั้งเป็นเอา แต่สุดท้ายเรื่องพลิก เขากลับเป็นคนเผาตัวคนร้ายซะเอง

ในฉากละครตอนพี่ฌอนโผล่มา (แบบหัวสกินเฮด ใส่แว่นตากันแดด ร่างผอมสูงเดินมาเลยค่า แต่ขนหน้าอกเยอะไปนะพี่นะ -.,-‘ ) พี่ Lily อยากจะกรี๊ดมากค่ะ (เอิ่ม! แต่คนดูในโรงละครก็เยอะอยู่นะ เก็บอาการ ๆ) นักแสดงที่เราชอบมาตั้งแต่ภาค 1-2 ได้เจอตัวจริงใกล้ๆแล้ว โอ๊ย!! ฟินค่ะ คนอะไรผ่านไปกว่า 10 ปี หน้ายังไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่ หน้าเด็กตลอดเลย (ถึงจะไว้เคราบ้างก็เถอะ) บอกตรงๆว่าตอนนั้นตื่นเต้นมากกกกกกกกก ได้นั่งที่นั่งแถว 2 ดูใกล้ ๆ เห็นช็อตอะไรหล่อ ๆ เท่ ๆ เด็ด ๆ ของพี่ฌอนเขาเยอะมาก พี่เขายิ้มทีจะละลายเลยค่ะ (โอเค! มาถึงตอนนี้คนอ่านก็รู้กันหมดแล้วสินะว่าพี่ Lily เป็นแฟนคลับพี่ฌอนระดับไหน ฮ่าๆ) เป็นความทรงจำที่มีความสุข และตื่นเต้นมาก ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ขอลายเซ็น ขอถ่ายรูปด้วย (ช่วงการแสดงก็ถ่ายรูปไม่ได้) อุตส่าห์ลองดูๆ รอๆ สังเกต แอบฟังจากที่พวกแฟนคลับฝรั่งสาวๆของพี่ฌอนเขาถามเจ้าหน้าที่เหมือนกัน แต่คำตอบคือไม่มีการให้ถ่ายรูปจริง ๆ T^T แต่อย่างน้อยการได้เจอใกล้ๆ ก็ดีใจสุดๆแล้ว…..ทิ้งท้ายพี่ Lily ขอโชว์ภาพใบแฮนด์บิลละครเรื่องนี้ กับคลิปตัวอย่างละครเวทีให้ดูละกันค่ะ

แหล่งอ้างอิง

– หนังสือ Harry Potter on Location

– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 1

– คลิปวีดีโอ J. K. Rowling: A Year In The Life

– เว็บไซต์ BBC (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Elephant house (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ George-Heriots School (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Telegraph (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ The-leaky-cauldron (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Wikipedia (อ้างอิง)