30 กรกฎาคม 2007 – Bloomsbury Live Chat

บทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ.2007 9 วันหลังหนังสือ Harry Potter and the Deathly Hallows ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (21 กรกฎาคม 2007) ต้นฉบับบทสัมภาษณ์จาก Accio-Quote


J.K. Rowling: ฉันอยู่นี่และรอไม่ไหวแล้ว! เอาคำถามมาเลยค่ะ!

Leaky Cauldron: โลกเวทมนตร์ได้อะไรเป็นบทเรียนและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในแง่ของผลกระทบโดยตรงจากสงครามกับโวลเดอมอร์ (ไม่ใช่ผลลัพธ์แบบหน้าที่การงานในอนาคตของแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่)

J.K. Rowling: กระทรวงเวทมนตร์โดนล้างบาง และด้วยการกุมบังเหียนของคิงสลีย์ การแบ่งแยกที่แอบแฝงอยู่ก็โดนถอนรากถอนโคนไปด้วย  แน่นอนว่าแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ และเพื่อน ๆ ของพวกเขาก็มีส่วนสำคัญในการสร้างสังคมผู้วิเศษขึ้นใหม่ผ่านหน้าที่การงานของพวกเขา

Ryan Love: คำถามจากแฟน ๆ ของคุณที่ thesnitch.Co.Uk เราควรจะได้เห็นความสามารถด้านเวทมนตร์อันทรงพลังของจินนี่ในเครื่องรางยมทูตและเหตุผลว่านัยสำคัญอะไรที่ทำให้เธอเป็นลูกคนที่ 7 หรือเปล่า? บทบาทสำคัญของเธอในหนังสือจะเป็นได้แค่คนรักของแฮร์รี่หรือ?

J.K. Rowling: สวัสดีไรอัน! ฉันว่าจินนี่ก็ได้แสดงเวทมนตร์อันทรงพลังไปในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ และสำหรับแม่มดวัย 16 ปีเธอก็พิสูจน์ตัวเองได้ดีเชียวล่ะ ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยบอกว่าการเป็นลูกคนที่เจ็ดของเธอจะเป็นข้อพิสูจน์สิ่งสำคัญอะไรในหนังสือเล่มสุดท้าย เธอแน่ใจเหรอว่าฉันเคยพูดไปแบบนั้น? 

Georgina: ลูเซียส มัลฟอยและพวกผู้เสพความตายที่หลบหนีไปคนอื่น ๆ ได้กลับไปอัซคาบันหรือเปล่า

J.K. Rowling: ไม่ พวกมัลฟอยหาลู่ทางให้ตัวเองพ้นผิดได้ (อีกครั้ง) เพราะพวกเขาให้ความร่วมมือกับแฮร์รี่ในตอนจบของสงคราม (แม้ว่าจะเพื่อประโยชน์ของตัวเอง)

Elisabeth: ในบทคิงส์ครอส พวกเขาอยู่หลังม่าน (โลกความตาย) หรืออยู่ในโลกที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโลกความจริงกับโลกวิญญาณ

J.K. Rowling: เรื่องนี้คิดเอาเองได้เลยค่ะ แต่ฉันคิดว่าแฮร์รี่น่าจะก้าวเข้าไปในโลกระหว่างความเป็นและความตายนะ

Renee: จากที่ได้อ่านเรื่องราวของผู้ครอบครองเครื่องรางยมทูตกลุ่มแรกอย่างพี่น้องเพฟเวอเรลล์ ฉันก็เริ่มสงสัยว่าแฮร์รี่กับโวลเดอมอร์อาจมีความเกี่ยวข้องกันแบบห่าง ๆ เนื่องจากแหวนที่มีหินชุบวิญญาณไปอยู่กับตาของโวลเดอมอร์หรือเปล่า

J.K. Rowling: ใช่ แฮร์รี่กับโวลเดอมอร์เกี่ยวข้องกันห่าง ๆ ผ่านทางเพฟเวอเรลล์ แน่นอนอยู่แล้ว ครอบครัวผู้วิเศษเกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกันถ้าจะไล่ย้อนขึ้นไปเป็นศตวรรษ อย่างที่เราได้อธิบายไว้ชัดเจนแล้วในเครื่องรางยมทูตว่าสายเลือดเพฟเวอเรลล์นั้นสืบทอดต่อไปผ่านครอบครัวผู้วิเศษหลาย ๆ ครอบครัว

Fomy: คุณรู้สึกยังไงตอนที่ได้เขียนบทจูบที่แฟน ๆ รอคอยมาเนิ่นนานของรอนกับเฮอร์ไมโอนี่สักที

J.K. Rowling: ฉันรักการเขียนบทนี้นะ ฉันรักความจริงที่ว่าเฮอร์ไมโอนี่เป็นคนเริ่มก่อนด้วย! แล้วรอนก็เข้าร่วม ส.ร.ร.ส.อ. ในท้ายที่สุดและได้รับค่าตอบแทนเป็นจูบ!

Angela Morrissey: ทำไมอัลบัส ดัมเบิลดอร์ถึงมองเห็นแฮร์รี่ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหนในช่วงขณะหนึ่ง (ผ้าคลุมมีผลแค่กับคนที่ไม่ได้ครอบครองเครื่องรางยมทูตหรือไม่)

J.K. Rowling: ดัมเบิลดอร์คือคนที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่ต้องเปล่งคำร่ายออกมาได้ใช้คาถา โฮเมนัม ริเวลิโอ ซึ่งเป็นคาถาที่ทำให้มนุษย์เปิดเผยตัวแบบที่เฮอร์ไมโอนี่ใช้ในเครื่องรางยมทูต

Jamie Lewis: เกิดอะไรขึ้นกับวิงกี้

J.K. Rowling: เธอก็ยังอยู่ที่ฮอกวอตส์ และเธอก็เป็นหนึ่งในเอลฟ์ที่ก้าวเข้ามาโจมตีผู้เสพความตายในสงครามครั้งสุดท้าย

Katieleigh: เฮอร์ไมโอนี่ยังคงเคลื่อนไหวเรื่องสรรสออยู่ไหม และชีวิตความเป็นอยู่ของเอลฟ์ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า

J.K. Rowling: เฮอร์ไมโอนี่เริ่มต้นทำงานที่กองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษที่ที่เธอได้เป็นสื่อกลางพัฒนาคุณภาพชีวิตของเอลฟ์และสิ่งมีชีวิตคล้าย ๆ กัน จากนั้นเธอก็ย้ายไป (แม้เธอจะไม่ชอบสคริมเจอร์) ที่กองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ที่ที่เธอเป็นคนหัวก้าวหน้าที่มุ่งเพิกถอนกฎหมายที่กดขี่ข่มเหงและเอื้อประโยชน์แต่พวกเลือดบริสุทธิ์

Tineke: เท็ดดี้ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตมาโดยยายของเขาหรือเปล่า

J.K. Rowling: ค่ะ เท็ดดี้ถูกเลี้ยงโดยแอนโดรเมดา อย่างไรก็ดี ไม่เหมือนกับเนวิลล์ที่ถูกเลี้ยงมาโดยคุณย่าของเขานะคะ เท็ดดี้ยังมีพ่อทูนหัวอย่างแฮร์รี่และเพื่อน ๆ ของพ่อของเขาจากภาคีคอยแวะไปหาและไปอยู่ด้วย

Blodeuwedd: สวัสดี เจเค อย่างแรกเลยฉันอยากขอบคุณสำหรับหนังสือทุกเล่มที่ทำให้ฉันได้สนุกในทุก ๆ เล่ม คุณพอจะบอกได้ไหมว่าแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ รอน จินนี่ และลูน่าทำงานอะไร และทั้งสามคนได้เรียนในปีการศึกษาสุดท้ายและได้สอบวิชาพ่อมดระดับสามัญไหม

J.K.Rowling: ขอบคุณค่ะ! ฉันตอบเรื่องเฮอร์ไมโอนี่ไปแล้ว คิงสลีย์กลายเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนต์ และเป็นเรื่องปกติที่เขาจะอยากให้แฮร์รี่มาเป็นหัวหน้าสำนักงานมือปราบมาร แฮร์รี่ก็เลยจัดให้ (แค่เพราะโวลเดอมอร์จากไปไม่ได้แปลว่าจะไม่มีพ่อมดและแม่มดศาสตร์มืดคนไหนเกิดขึ้นมาอีก) รอนทำงานที่ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ ซึ่งกลายเป็นแหล่งสร้างเงินแหล่งใหญ่  หลังจากเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นให้กับโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์ จินนี่ก็ถอนตัวมาสร้างครอบครัวและกลายเป็นนักข่าวควิดดิชให้เดลี่พรอเฟ็ต

Camille: ตกลงพีฟส์เป็นใครหรืออะไรกันแน่ เขาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของบารอนเลือดไหมคะ

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ พีฟส์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของบารอนเลือด เขาเป็นจิตวิญญาณของความวุ่นวายที่เข้ามาอยู่ในปราสาทนานแล้วและพิสูจน์ไปแล้วว่าไม่มีทางกำจัดเขาได้!

Jessie: เครื่องรางยมทูตเป็นเรื่องที่มีที่มาจากตำนานในโลกความจริงหรือเทพนิยายเรื่องไหนไหมคะ

J.K. Rowling: น่าจะเป็นเรื่อง Pardoner’s Tale ที่เขียนโดยชอว์เซอร์

Alicepie: เกิดอะไรขึ้นกับลูน่า เธอได้แต่งงานกับใครไหม

J.K. Rowling: ลูน่ากลายมาเป็นนักธรรมชาติวิทยาผู้โด่งดังที่ค้นพบและจัดหมวดหมู่สัตว์สปีชีส์ใหม่อีกหลายสปีชีส์ (ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วเธอก็ไม่เคยพบสนอร์แค็กเขาย่นและก็ต้องยอมรับว่าพ่อของเธออาจจะแต่งเรื่องนั้นขึ้นมาในที่สุด) ท้ายที่สุดเธอแต่งงาน (ช้ากว่าแฮร์รี่และเพื่อนคนอื่น ๆ) กับเพื่อนนักธรรมชาติวิทยาและเป็นหลานของ นิวท์ สคามันเดอร์ (รอล์ฟ)!
Rosi: แต่โดยเนื้อแท้แล้วแบ่งแยกหรือ? หมายถึงอะไร

J.K.Rowling: ดัมเบิลดอร์ระแวงว่าเนื้อแท้ของงูนั้นถูกแบ่งแยกออกไป ว่ามันมีส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของโวลเดอมอร์อยู่ และนั่นคือสาเหตุที่มันทำตามคำสั่งของเขาได้อย่างเชี่ยวชาญ และยังช่วยอธิบายได้ว่าทำไมแฮร์รี่ซึ่งบังเอิญเป็นฮอร์ครักซ์ชิ้นสุดท้ายถึงได้มองเห็นผ่านตาของงูอย่างชัดเจน เหมือนที่เขาเห็นผ่านดวงตาของโวลเดอมอร์อยู่บ่อย ๆ ดัมเบิลดอร์พูดสิ่งที่คิดออกมาในตอนนี้ ค่อย ๆ เข้าใกล้ความจริงด้วยความช่วยเหลือจากอ่างเพนซิฟ

SuperHans: ความทรงจำเลวร้ายที่สุดของดัดลีย์คืออะไร

J.K. Rowling: ฉันคิดว่าตอนที่ดัดลีย์ถูกผู้คุมวิญญาณจู่โจมนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นตัวเองในแบบที่เป็นจริง ๆ มันเจ็บปวดมาก แต่ก็เป็นบทเรียนที่มีค่า และทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง

Casey Kunze: ใครเป็นคนฆ่ารีมัสกับท็องส์ ฉันว่าถ้าฉันได้รู้ฉันก็อาจจะทำใจได้บ้างกับการจากไปที่น่าเศร้าแต่ก็เข้าใจได้ของสองตัวละครสุดโปรดของฉัน

J.K. Rowling: ฉันเสียใจจริง ๆ ค่ะ! ฉันเจอคู่รักคู่หนึ่งแต่งตัวมาเป็นลูปินกับท็องส์ในงานเปิดตัว และฉันรู้สึกผิดมากเลยตอนที่ต้องเซ็นหนังสือให้เขา รีมัสถูกฆ่าโดยโดโลฮอฟ และเบลลาทริกซ์เป็นคนฆ่าท็องส์

Laura Trego: ที่ไม่มีภาพสเนปในห้องอาจารย์ใหญ่ในฉากสุดท้ายเป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจ

J.K. Rowling: เป็นความตั้งใจค่ะ สเนปถือได้ว่าออกจากตำแหน่งก่อนตาย ดังนั้นเขาเลยไม่คู่ควรจะไปอยู่ในกลุ่มคนผู้ทรงเกียรตินี้ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังคิดว่าแฮร์รี่จะต้องเป็นตัวตั้งตัวตีให้มีภาพเหมือนสเนปในที่สุด  

Stephanie: ถ้าไม้กายสิทธิ์เลือกพ่อมด แล้วทำไมไม้ถึงยังใช้งานได้เมื่อถูกส่งต่อจากพ่อสู่ลูก เช่น เนวิลล์ที่ได้ไม้กายสิทธิ์ของพ่อ

J.K.Rowling: อย่างที่โอลลิแวนเดอร์บอกไป ผู้วิเศษจะใช้ไม้กายสิทธิ์ได้เกือบทุกไม้ แต่ไม้ที่เลือกเขาหรือเธอก็จะใช้งานได้ดีที่สุด ถ้ามีสายสัมพันธ์ทางครอบครัว ไม้ก็จะใช้ได้ดีกว่าไม้อื่น ๆ ที่สุ่มมา

James Farrell: ทำไมอัมบริดจ์ถึงเสกคาถาผู้พิทักษ์ได้ตอนที่ใส่ล็อกเก็ตอยู่ แต่แฮร์รี่ทำไม่ได้

J.K.Rowling: เพราะเธอเป็นคนน่ารังเกียจ และเธอก็มีความหลงใหลให้กับวัตถุร้าย ๆ นี่  มันก็เลยช่วย (เพิ่มความสุข) ให้เธอมากกว่าจะขัดขวาง

Tineke: เกิดอะไรขึ้นกับเพอร์ซี่ เขาได้กลับไปทำงานที่กระทรวงไหม

J.K.Rowling: ค่ะ เพอร์ซี่คนใหม่กลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงกว่าเดิมภายใต้การนำของคิงสลีย์

Su: เนวิลล์ได้ดาบกริฟฟินดอร์มาได้ยังไง เกี่ยวข้องอะไรกับหมวกไหม

J.K.Rowling: แน่นอน มันเกี่ยวกับหมวกแน่นอน เนวิลล์ กริฟฟินดอร์ที่คู่ควรที่สุดขอความช่วยเหลือเหมือนที่แฮร์รี่ทำในห้องแห่งความลับ และดาบกริฟฟินดอร์เลยถูกส่งมาที่หมวกเก่าของกริฟฟินดอร์ หมวกคัดสรรเคยเป็นหมวกของกริฟฟินดอร์ค่ะ อย่างที่คุณก็รู้ กริ๊ปฮุกคิดผิดไป กริฟฟินดอร์น่ะไม่ได้ขโมยดาบมา นอกจากว่าคุณจะเป็นผู้คลั่งไคล้ก๊อบลินและเชื่อว่าทุกอย่างที่ก๊อบลินประดิษฐ์ขึ้นควรเป็นของผู้ประดิษฐ์

Steph: อัซคาบันจะยังใช้ผู้คุมวิญญาณไหม

J.K. Rowling: ไม่ ไม่อยู่แล้วค่ะ คิงสลีย์ต้องเห็นถึงปัญหา การใช้ผู้คุมวิญญาณน่ะเป็นข้อบ่งชี้ถึงปัญหาการคอร์รัปชั่นในกระทรวงเวทมนตร์ เหมือนที่ดัมเบิลดอร์ยืนยันอยู่เสมอ

Smallbutpowerful: ขอเป็นตัวแทนของแฟน ๆ แฮร์รี่ที่คิดว่าตัวเองเป็นฮัฟเฟิลพัฟเพื่อจะขอให้คุณช่วยบรรยายให้ฟังหน่อยว่าห้องนั่งเล่นบ้านฮัฟเฟิลพัฟเป็นยังไง เพราะมันเป็นห้องนั่งเล่นเพียงบ้านเดียวที่แฮร์รี่ไม่เคยไป

J.K.Rowling: ห้องนั่งเล่นบ้านฮัฟเฟิลพัฟมีทางเข้าผ่านทางภาพเหมือนใกล้ ๆ กับห้องครัว และฉันว่าคุณคงเดาได้อยู่แล้ว ขอโทษที ฉันควรจะเรียกว่าเป็น “ภาพเขียน” มากกว่า “ภาพเหมือน” เพราะมันเป็นภาพแนวหุ่นนิ่ง มันเป็นห้องสบาย ๆ และเป็นสถานที่ที่อบอุ่น แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคุกใต้ดินของสเนป ตกแต่งไปด้วยสีเหลืองและเก้าอี้นวมนุ่ม ๆ และอุโมงค์ใต้ดินเล็ก ๆ ที่นำไปสู่หอนอน ทั้งหมดนั้นมีประตูวงกลมสมบูรณ์ เหมือนฝาถัง

Camille: จอร์จใช้ชีวิตยังไงโดยไม่มีแฝดของเขา

J.K. Rowling: ฉันไม่คิดว่าจอร์จจะทำใจได้ในเรื่องการสูญเสียเฟร็ด นั่นทำให้ฉันเศร้านะ แต่ยังไงก็ตาม เขาตั้งชื่อลูกคนแรกซึ่งเป็นลูกชายของเขาว่าเฟร็ด เขากลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากรอนคนดีคนเดิม

Jessica Lynn: แฮกริดจำเป็นจะต้องเห็นเธสตรอลไหมในการฝึกพวกมัน ถ้าเป็นแบบนั้น แฮกริดเคยเห็นความตายของใคร

J.K. Rowling: แฮกริดเห็นความตายมาหลายครั้งในชีวิตอันยืนยาวของเขา เพราะฉะนั้นก็แน่นอนค่ะ เขามองเห็นเธสตรอล

Allie: ดัมเบิลดอร์เห็นอะไรในกระจกเงาแห่งแอริเซดกันแน่

J.K. Rowling: เขาเห็นครอบครัวของเขายังมีชีวิต พร้อมหน้าพร้อมตาและมีความสุข แอรีอานนา เพอร์ซิวาล และเคนดราต่างก็กลับมาหาเขา และอาเบอร์ฟอร์ธก็คืนดีกับเขา

Snapedinhalf: คุณสัญญาว่าจะมีใครสักคนที่จะเพิ่งใช้เวทมนตร์ได้ในเล่ม 7 ฉันอ่านมา 3 รอบแล้วและยังนึกไม่ออกว่าคนคนนั้นเป็นใคร ช่วยหน่อยเถอะ!

J.K. Rowling: ขอโทษทีค่ะแต่ฉันเปลี่ยนใจแล้ว! ตอนแรกฉันวางแผนไว้ว่าจะมีเรื่องของคนที่มาที่ฮอกวอตส์ได้ทั้งที่ไม่เคยใช้เวทมนตร์มาก่อน แต่เปลี่ยนใจแล้วตอนที่จะเขียนหนังสือเล่ม 3

Christiana: โวลเดอมอร์ได้ไม้กายสิทธิ์ของเขาคืนมายังไงหลังจากที่ต้องลี้ภัย

J.K. Rowling: หางหนอน ลุกลี้ลุกลนอยากสร้างความประทับใจ เลยไปเก็บมันมาจากที่ที่มันตกอยู่และเอามาให้เขา ฉันยอมรับว่านั่นเป็นงานยากสำหรับหนูสักหน่อย แต่พวกมันก็เป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก!

Amanda: หวัดดีค่ะ ฉันโตมากับแฮร์รี่และผองเพื่อน มีตัวละครตัวไหนที่เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิดในตอนช่วงที่เขาเติบโตไหมคะ

J.K. Rowling: ทุกคนเติบโตมาแบบที่ฉันคิดไว้หรือวางแผนให้พวกเขาเป็นเป๊ะ ๆ เลยค่ะ แน่นอนว่าพวกเขาเปลี่ยนไปตอนฉันเขียน แต่ไม่มีใครทำให้ฉันประหลาดใจมากเท่าไหร่หรอกค่ะ

Ravleen: ข้อเท็จจริงที่โวลเดอมอร์เกิดมาจากยาเสน่ห์ส่งผลกระทบกับการไร้ความสามารถในการเข้าใจความรักของเขามากน้อยแค่ไหนคะ หรือนั่นเป็นไปในเชิงสัญลักษณ์มากกว่า

J.K. Rowling: มันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเขามาจากการลงเอยที่ไร้รัก แต่แน่นอนค่ะ ทุกอย่างคงเปลี่ยนไปแน่ ๆ ถ้าเมโรเพรอดชีวิตและเลี้ยงดูเขาด้วยตัวเองและด้วยความรัก ความลุ่มหลงที่ควบคุมทอม ริดเดิ้ลที่เป็นพ่อของโวลเดอมอร์อยู่เป็นสิ่งสำคัญเพราะมันแสดงให้เห็นถึงการบีบบังคับ และไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่าการเกิดมาบนโลกจากผลลัพธ์ของการลงเอยแบบนั้น

Lechicaneuronline: คุณคิดว่าสเนปเป็นฮีโร่ไหมคะ

J.K. Rowling: ฉันคิดนะคะ แม้จะเป็นฮีโร่ที่มีข้อเสียมากมาย บางทีอาจเป็นตัวเอกปฏิลักษณ์ (anti-hero) เขาไม่ใช่คนที่น่าชื่นชอบในหลาย ๆ แง่ เขายังคงเป็นคนโหดร้าย เป็นจอมรังแก เต็มไปด้วยความขมขื่นและเชื่อถือไม่ได้ แต่เขาก็ยังเป็นคนรู้จักรัก และยังแสดงความภักดีต่อรักนั้นด้วย และในที่สุดก็ได้มอบชีวิตเพราะรักนั้น นั่นเป็นฮีโร่มากเลยนะคะ

James Farrell: โวลเดอมอร์ไม่เคยบอกใครเรื่องฮอร์ครักซ์ และเรกูลัส แบล็ก ค้นพบความลับของเขาได้ยังไง

J.K. Rowling: เวทมนตร์ฮอร์ครักซ์ไม่ใช่นวัตกรรมของโวลเดอมอร์ อย่างที่ได้บอกไปแล้วในเรื่อง พ่อมดคนอื่นก็เคยทำ แม้จะไม่ไปถึงขั้นแยกออกมาเป็น 6 ชิ้นก็เถอะ โวลเดอมอร์ทิ้งคำใบ้อ้อม ๆ ไว้ด้วยความหยิ่งยโสของเขา เขาไม่คิดว่าจะมีใครฉลาดพอที่จะเข้าใจมันได้ (เขาทำแบบนี้ที่สุสานในลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน ต่อหน้าแฮร์รี่) เขาทำแบบนี้ต่อหน้าเรกูลัส และเรกูลัสก็เดาได้ถูก ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้โวลเดอมอร์มั่นใจเหลือเกินว่าเขาจะไม่ตาย

Jaclyn: ลิลี่เคยมีความรู้สึกอะไรให้สเนปกลับบ้างไหม

J.K. Rowling: เคยค่ะ เธออาจจะเคยรักเขาแบบโรแมนติกเลยก็ได้ (ตอนนั้นเธอรักเขาแบบเพื่อน) ถ้าหากเขาไม่ไปหลงใหลในศาสตร์มืดเสียก่อน และถูกดึงดูดไปหาผู้คนและการกระทำที่น่ารังเกียจแบบนั้น 

Boggo: คุณจะเลือกเครื่องรางเป็นผ้าคลุมแบบที่คุณควรทำไหมคะ และคุณจะรู้สึกยั่วยวนใจที่จะใช้เครื่องรางอื่น ๆ ไหมคะ

J.K. Rowling: ความปรารถนาของฉันคงเหมือนแฮร์รี่ค่ะ นั่นคือการใช้หิน แต่ฉันเชื่อ เหมือน ๆ กับที่แฮร์รี่เชื่อในที่สุด ว่าปัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการยอมรับว่าเราทุกคนต่างก็ต้องตาย และก้าวต่อไป

Cornersoul: เกิดอะไรขึ้นกับพวกผู้คุมวิญญาณ พวกเขาไปที่อื่นหรือว่าถูกทำลาย แล้วถ้าถูกทำลาย จะทำลายยังไง

J.K. Rowling: คุณทำลายผู้คุมวิญญาณไม่ได้ค่ะ แม้ว่าคุณจะสามารถจำกัดจำนวนได้ถ้าคุณกำจัดปัจจัยที่ทำให้พวกเขาเพิ่มจำนวนขึ้นได้ เช่น ความสิ้นหวังหรือความเสื่อมโทรม ซึ่งฉันก็ได้พูดถึงไปแล้วค่ะ กระทรวงไม่ได้ใช้พวกเขาในการทรมานศัตรูแล้วค่ะ

Michael: ทำไมฟอกซ์ไม่กลับมาช่วยแฮร์รี่แบบที่ฉันคิดไว้เพราะแฮร์รี่เป็นคนที่ภักดีกับดัมเบิลดอร์มาก ฟอกซ์เป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของแฮร์รี่ก็ยังได้

J.K. Rowling: มีบางสิ่งที่ต้องจากโรงเรียนไปตลอดกาลเมื่อดัมเบิลดอร์ตาย และฉันตัดสินใจให้เป็นฟอกซ์  ดัมเบิลดอร์คือคนที่ยิ่งใหญ่และไม่มีใครแทนที่ได้ และการจากไปของฟอกซ์ (และข้อเท็จจริงที่ว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนผ่านได้!) แสดงให้เห็นตรงจุดนั้นในเชิงสัญลักษณ์ค่ะ

Roseweasley: ทำไมคอลิน ครีฟวีย์ถึงยังเป็นนักเรียนฮอกวอตส์ทั้งที่เขาเป็นลูกมักเกิ้ล แน่นอนว่าเขาจะต้องถูกคุมขังและสอบปากคำ ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเรียนได้อีก ซึ่งเขาก็จะไม่ตาย

J.K. Rowling: คอลินไม่ใช่นักเรียนค่ะ เขาหลบหนีออกมาพร้อมกับพวกกองทัพดัมเบิลดอร์ที่เหลือ รวมทั้งเฟร็ด จอร์จ และคนอื่น ๆ เขาไม่ควรจะยังอยู่ตอนที่มักกอนนากัลบอกให้เขาไป แต่สุดท้ายเขาก็อยู่

Delailah: ดัมเบิลดอร์เข้าใจภาษาพาร์เซลได้ยังไง

J.K. Rowling: ดัมเบิลดอร์เข้าใจภาษาเงือก ภาษาก๊อบลิน และภาษาพาร์เซล เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม

Jessie: ล็อกฮาร์ตจะหายดีไหม

J.K. Rowling: ไม่ และฉันก็ไม่อยากให้เขาหายด้วย เขามีความสุขดีอยู่แล้ว และฉันก็มีความสุขกว่าถ้าไม่มีเขา!

Annie: โลกเวทมนตร์รู้หรือเปล่าว่าสเนปเป็นคนของดัมเบิลดอร์ หรือยังคิดกันว่าเขาเตลิดหนีไปแล้ว

J.K. Rowling: แฮร์รี่จะทำให้แน่ใจเองว่าความกล้าหาญของสเนปเป็นที่รับรู้ แน่นอนว่ามันคงไม่หยุดริต้า สกีตเตอร์ให้ไม่เขียนบทความ “สเนป: คนบาปหรือพ่อนักบุญ?” ออกมาหรอก

Vio91: เท็ดดี้ ลูปินเป็นมนุษย์หมาป่าหรือเปล่า

J.K. Rowling: ไม่ เขาเป็นเมตามอร์ฟเมกัสเหมือนแม่

Nippy23: เราเห็นเรื่องถุงเท้าบ่อยมากในซีรีส์นี้ เช่น ความรักที่ด็อบบี้มีให้กับมัน หรือที่ดัมเบิลดอร์อ้างว่ามองเห็นมันในกระจกเงาแห่งแอริเซด มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังถุงเท้าพวกนั้นไหม

J.K. Rowling: เกรงว่ามันจะไม่ได้มีเหตุผลที่ลึกซึ้งและสำคัญอะไรเลยค่ะ แค่เอาฮามากกว่า

Lady Bella: โวลเดอมอร์ฆ่าใครบ้างเพื่อจะใช้สร้างฮอร์ครักซ์แต่ละชิ้น

J.K. Rowling: สมุดบันทึกคือเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ ถ้วยคือเฮปซิบาห์ สมิท เจ้าของคนเก่า ล็อกเก็ตมาจากมักเกิ้ลจรจัด นากินีคือเบอร์ธา จอร์กิ้นส์ (โวลเดอมอร์สามารถใช้ไม้กายสิทธิ์ได้เมื่อเขาอยู่ในร่างคืนชีพ ตราบใดที่เหยื่ออยู่ใต้การควบคุม) รัดเกล้าคือชาวไร่ในแอลเบเนีย แหวนคือทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์

Sampotterish: ทำไมดัมเบิลดอร์อยากให้รอนเก็บดีลูมิเนเตอร์ไว้

J.K. Rowling: เพราะเขารู้ว่ารอนอาจต้องการการชี้นำมากกว่าอีกสองคนนิดหน่อย ดัมเบิลดอร์เข้าใจความสัมพันธ์ของรอนในสามคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่มีทักษะที่สุดหรือฉลาดที่สุด แต่เขาคือคนที่เชื่อมพวกเขาไว้ด้วยกัน ความตลกและจิตใจที่ดีของเขาเป็นสิ่งสำคัญ

Carol: ผู้คุมวิญญาณมีจิตวิญญาณไหม

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาน่ากลัว!

Jess Mac: กลิ่นที่สามที่เฮอร์ไมโอนี่ได้กลิ่นในน้ำยาลุ่มหลงในเจ้าชายเลือดผสมคือกลิ่นอะไร (เช่น กลิ่นเฉพาะตัวของรอน)

J.K. Rowling: ฉันว่าน่าจะเป็นกลิ่นผมเขานะ ทุกคนต่างมีกลิ่นผมที่แตกต่างกันไป คุณคิดแบบนั้นไหม

Natalie: การแบ่งแยกบ้านที่ฮอกวอตส์ยังมีอยู่มากในยุคของลูก ๆ ของแฮร์รี่เท่ากับที่มันมีในรุ่นก่อน ๆ ไหม 

J.K. Rowling: สลิธีรินอ่อนข้อลง ไม่ได้เป็นหอคอยเลือดบริสุทธิ์อย่างที่มันเคยเป็น อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงด้านมืดก็ยังคงอยู่ เลยเป็นสาเหตุให้อัลบัส พอตเตอร์กลัวค่ะ

Nithya: ลิลี่รังเกียจพวกศาสตร์มืด แล้วถ้าสเนปรักเธอจริง ทำไมเขาไม่ยอมสละพวกนั้นไปเพื่อเธอ

J.K. Rowling: นั่นแหละคือเรื่องเศร้าของสเนป ถ้าให้เขาย้อนกลับไปได้อีกครั้งเขาก็คงไม่กลายเป็นผู้เสพความตาย แต่ก็เหมือนกับคนขาดความมั่นคงและอ่อนแอทั่ว ๆ ไป (เหมือนหางหนอน) เขาปรารถนาจะเป็นสมาชิกของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจ บางสิ่งที่น่าประทับใจ เขาต้องการทั้งลิลี่และต้องการเป็นผู้เสพความตาย เขาไม่เคยเข้าใจความเกลียดชังของลิลี่ เขาดวงตามืดบอดกับความหลงใหลศาสตร์มืดจนคิดว่าเธอคงจะมองว่าเขาน่าประทับใจถ้าเขากลายเป็นผู้เสพความตายเข้าจริง ๆ

Alborz: การเป็นนายเหนือความตายหมายความว่ายังไง

J.K. Rowling: เหมือนที่ดัมเบิลดอร์อธิบายไปค่ะ การเป็นนายเหนือความตายจริง ๆ ก็คือการยอมรับว่าเขาต้องตาย และมีเรื่องแย่ ๆ ในโลกของคนเป็นมากกว่าด้วย มันไม่เกี่ยวกับการขวนขวายหาความเป็นอมตะ แต่การยอมรับความไม่เป็นอมตะ

Barbara: ฉันผิดหวังมากเลยที่เห็นว่าแฮร์รี่ใช้คาถาครูซิโอและดูจะสนุกกับมันด้วย ความล้มเหลวในการใช้คาถาแบบนี้เมื่อก่อนช่วยยืนยันนิสัยของเขา ทำไมมันถึงเปลี่ยนไป และแฮร์รี่เคยรู้สึกผิดไหมที่สนุกสนานกับการสร้างความเจ็บปวด

J.K. Rowling: แฮร์รี่ไม่ใช่และไม่เคยเป็นพ่อพระ ก็เหมือนสเนป เขามีข้อเสียและเป็นมนุษย์ ข้อเสียของแฮร์รี่คือความโกรธแค้นเป็นส่วนใหญ่และความหยิ่งยโสในบางครั้ง สำหรับเรื่องนี้ เขาโกรธมากและแสดงออกไปแบบนั้น เขาอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงสุดขีดและพยายามปกป้องคนที่ดีมาก ๆ จากศัตรูหัวรุนแรงและเป็นฆาตกร

Nicole: คุณคิดว่าตอนไหนคือตอนที่สนุกที่สุดที่คุณเคยเขียนมาในซีรีส์นี้

J.K. Rowling: ดูถือตัวจังเลยค่ะถ้าจะตอบคำถามนี้! ตอนที่ฉันชอบที่สุดในหนังสือคงเป็นประโยคที่รอนพูดว่า “ช่วยสร้างสีสันให้เรื่องหม่นหมองนี้ได้ดีนะ ว่าไหม”

Courtney: ลูกคนไหนที่เขาให้แผนที่ตัวกวนไป

J.K. Rowling: ฉันมีความรู้สึกว่าเขาไม่ได้ให้ใครเลยค่ะ แต่วันหนึ่งเจมส์ก็แอบเอามันมาจากโต๊ะของพ่อเขา

Karin: เพ็ตทูเนียอยากจะบอกอะไรกับแฮร์รี่ในตอนสุดท้ายของการแยกกันกับพวกเดอร์สลีย์

J.K. Rowling: ฉันคิดว่าชั่วขณะหนึ่งเธออยากจะบอกให้แฮร์รี่โชคดีจนตัวสั่น ว่าเธอยอมรับได้แล้วว่าความเกลียดชังที่มีต่อโลกของเขาและเขามันเกิดจากความอิจฉา แต่เธอก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะหลายปีที่ต้องทำเป็นเหมือนว่า “ความปกติ” คือสิ่งที่ดีที่สุดแข็งแกร่งกับเธอเกินไป

Leaky Cauldron: ช่วยโพสต์และตอบคำถามที่คุณอยากให้คนถามมากที่สุดเกี่ยวกับซีรีส์นี้หน่อย (อะฮ่า ถึงทีคุณแล้ว)

J.K. Rowling: อู้ว ร้ายจัง ฉันยอมรับเลยว่าฉันสงสัยมาตลอดว่าทำไมไม่มีใครถามฉันเลยว่าไม้ของดัมเบิลดอร์ทำมาจากอะไร! และฉันพูดไม่ได้หรอก ต่อให้ถูกถามว่า อยากโดนถามเรื่องอะไร เพราะมันจะเป็นการบอกล่วงหน้าว่าไม้นั้นมันจะกลายเป็นของสำคัญมากแค่ไหน!

Nora: รัดเกล้าของป้ามิวเรียลสำคัญไหม

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ ขอโทษที นอกจากจะช่วยทำให้เห็นว่าเธอเป็นยัยแก่ตัวร้ายแค่ไหน

Nigel: แฮร์รี่ยังคงพูดภาษาพาร์เซลได้ไหมเมื่อเขาไม่ได้เป็นฮอร์ครักซ์แล้ว

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ เขาสูญเสียความสามารถนั้นไป และดีใจมากที่เป็นแบบนั้น

Nikki: กระจกสองทางของซิเรียสไปอยู่กับอาเบอร์ฟอร์ธได้ยังไง หรือเป็นกระจกสองทางคนละบาน

J.K. Rowling: คุณจะเห็นว่าอาเบอร์ฟอร์ธไปเจอมันดังกัสที่ฮอกส์มี้ด นั่นคือตอนที่ดัง ที่เอากระจกของซิเรียสมาจากกริมโมลด์เพลซขายต่อให้กับอาเบอร์ฟอร์ธ

Tierney Roth: ถ้ามู้ดดี้มีตาวิเศษ และหางหนอนมีมือวิเศษ จะไม่มีทางสร้างหูวิเศษได้เหรอ ถ้าแค่มาปิดรูและทำให้จอร์จดูได้สัดส่วนมากกว่านี้

J.K. Rowling: ค่ะ เขาอาจจะสวมหูปลอมก็ได้ (แค่คิดฉันก็ขำแล้ว บางทีเป็นรูแบบนั้นก็อาจจะดีกว่านะคะ)

Lucy: บ็อกการ์ตของดัมเบิลดอร์คืออะไร

J.K. Rowling: ศพของน้องสาวค่ะ

Pablo: ยัยคางคกอัมบริดจ์เป็นยังไงบ้างแล้วตอนนี้

J.K. Rowling: ดีใจที่คุณชอบเธอเท่าที่ฉันชอบนะคะ! เธอก็โดนจับ โดนสอบปากคำ โดนขังสำหรับอาชญากรรมที่เธอก่อกับลูกมักเกิ้ล

Tina: มักเกิ้ลสังเกตไหมว่าไม่มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นอีกแล้วหลังจากโวลเดอมอร์จากไป

J.K. Rowling: ค่ะ โลกก็ดูจะสว่างสดใสมากขึ้นนะ (จริง ๆ นะคะ พอผู้คุมวิญญาณไปแล้วสภาพอากาศก็ดีขึ้น!) ตอนนี้ที่อังกฤษเรามีหน้าร้อนที่สภาพอากาศเหมือนได้รับอิทธิพลมาจากผู้คุมวิญญาณเลยค่ะ

Katie Mosher: ลูกมักเกิ้ลได้รับความสามารถด้านเวทมนตร์มาได้ยังไง

J.K. Rowling: ในผังตระกูลของลูกมักเกิ้ลจะต้องมีพ่อมดแม่มดอยู่สักคนค่ะ บางกรณีก็ต้องย้อนกลับไปอีกหลาย ๆ รุ่น ยีนจะกลับมาปรากฏอีกครั้งในจุดที่ไม่คาดคิด

Maggie: ริต้า สกีตเตอร์ยังรายงานข่าวอยู่ไหม

J.K. Rowling: ตามธรรมชาติค่ะ ใครจะไปหยุดริต้าได้ ฉันจินตนาการว่าเธอรีบเขียนเรื่องชีวประวัติของแฮร์รี่หลังจากที่เขาเอาชนะโวลเดอมอร์ได้ 1 ส่วนเป็นเรื่องจริง อีก 3 ส่วนเป็นขยะ

Maggie Keir: เฮอร์ไมโอนี่ตามหาพ่อแม่เจอและเอาความทรงจำกลับมาได้ไหม

J.K. Rowling: ค่ะ เธอพาพวกเขากลับบ้านทันทีเลย

Lola Victorpujebet: มิเนอร์ว่าตกหลุมรักอัลบัสหรือเปล่า

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ! ไม่ใช่ทุกคนจะตกหลุมรักกับคนอื่น ๆ ทุกคนหรอกนะ

Rachel Nell: เจเคอาร์ ขอบคุณสำหรับหนังสือที่แสนมหัศจรรย์นะคะ ฉันอยากรู้จังว่าทำไมดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้เลยว่าลิลี่กับสเนปเป็นเพื่อนกันตอนอยู่ที่โรงเรียน พวกเขามาเจอและพูดคุยกันออกจะชัด เจมส์ไม่รู้เรื่องความหลังของพวกเขาเลยเหรอ

J.K. Rowling:  ขอบคุณสำหรับคำขอบคุณนะคะ ใช่ค่ะ เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นเพื่อนกันแต่แล้วก็เลิกเป็นเพื่อนกันไป เรื่องนอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้รู้กันอย่างกว้างขวางค่ะ เจมส์ก็ระแคะระคายอยู่เสมอว่าสเนปเก็บงำความรู้สึกลึกซึ้งกว่านั้นให้ลิลี่ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกับพฤติกรรมของเจมส์ต่อสเนป

Abbey: ทีมชัดลีย์แคนนอนส์จะได้แชมป์ควิดดิชเวิลด์คัพบ้างไหม

J.K. Rowling: อวยพรให้พวกเขาค่ะ มันอาจเกิดขึ้น แต่พวกเขาต้องเปลี่ยนตัวทั้งทีมเลยและยังต้องดื่มน้ำยานำโชคอีกหลายหม้อด้วย

Hayleyhaha: ทำไมเรกูลัสถึงกลับใจ

J.K. Rowling: เขายังไม่พร้อมกับชีวิตจริงของการเป็นผู้เสพความตาย การพยายามฆ่าครีเชอร์ของโวลเดอมอร์นั่นเองที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ

J.K. Rowling: สกอร์เปียสมีอุปสรรคหลายอย่าง ไม่เพียงแค่นามสกุล แต่ถึงอย่างนั้น ฉันคิดว่าสกอร์เปียสน่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ปรับปรุงใหม่ของพ่อเขา ผู้ซึ่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดทำให้หม่นหมองไป

Stephval: สกอร์เปียสถูกชี้แนะไปในทางที่ผิดเท่าพ่อเขาไหม หรือเดรโกพัฒนาตัวเองและสอนลูกได้ดีกว่า

J.K. Rowling: ขอโทษค่ะ ผิดพลาดทางเทคนิค ตอบคำถามไปก่อนที่จะเห็นคำถาม! ฉันพินิจใจได้เก่งขึ้นชัด ๆ

Lona: เดรโกกับแฮร์รี่ลดความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันลงไหมหลังจากโวลเดอมอร์ตาย

J.K. Rowling: ไม่นะคะ ก็คงมีการประนีประนอมบ้างเมื่อแฮร์รี่ได้รู้ว่าเดรโกเกลียดการเป็นผู้เสพความตายและไม่มีทางฆ่าดัมเบิลดอร์ลง เช่นเดียวกับที่เดรโกคงจะขัดข้องใจที่แฮร์รี่ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่มิตรภาพแท้จริงนี่ไม่ต้องถามถึงเลยค่ะ มีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมากเกินไปก่อนจะถึงสงครามครั้งสุดท้าย 

Hannah: ทำไมสเนปแต่งตัวแย่มาก

J.K. Rowling: หืมมม เป็นคำถามที่ดีค่ะ สายตาแย่เหรอ เขามองตัวเองในกระจกแล้วเชื่อว่าเขาดูดีแล้วหรือเปล่า ฉันว่าเขาอาจจะให้คุณค่ากับคุณสมบัติอื่น ๆ ของตัวเองมากกว่านะคะ

Ea: หินชุบวิญญาณจะถูกพบอีกไหมในเมื่อมันถูกวางทิ้งไว้ที่ผืนป่าแล้ว

J.K. Rowling: ฉันว่าไม่นะคะ ฉันคิดว่ามันถูกกดจมดินไปแล้วด้วยกีบเท้าของเซนทอร์ตอนที่เซนทอร์พุ่งไปช่วยนักสู้ฮอกวอตส์ และหลังจากนั้นเลยถูกฝังกลบไป

Adwait313: คำแช่งของตำแหน่งคนสอนการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดถูกถอนออกไปหรือยัง

J.K. Rowling: ค่ะ ในที่สุด! บังเอิญจังที่ฉันรู้ว่าบางคนก็ถามเกี่ยวกับควีเรลล์เรื่องคำถามนี้ เขาสอนที่ฮอกวอตส์มามากกว่า 1 ปี แต่ไม่ได้สอนในตำแหน่งครูสอนการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดค่ะ เขาเคยเป็นศาสตราจารย์มักเกิ้ลศึกษา 

Emily: เกิดอะไรขึ้นกับอาเบอร์ฟอร์ธ

J.K. Rowling: เขาก็ยังอยู่ที่นั่น ที่ร้านหัวหมู เล่นกับเหล่าแพะของเขา

Lee: ฉันเพิ่งซื้อนิมบัส 2000 มา มันเอียงซ้ายแบบแย่สุด ๆ ฉันพอจะทำอะไรได้บ้าง (นอกจากการใช้ไม้กายสิทธิ์เพราะฮิปโปกริฟฟ์ทำหักไปแล้ว) เพื่อจะซ่อมมันกลับมาให้บินตรง ๆ เหมือนเดิม

J.K. Rowling: หืม ฉันคงแนะนำให้ไปร้านควิกรีแพร์ของอาร์กี้ อัลเดอร์ตัน (Arkie Alderton’s Kwik-Repair Shop) อย่าพยายามจะซ่อมไม้กวาดที่บ้าน ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจเป็นหายนะ

Abjoppotter: นาร์ซิสซา มัลฟอยเป็นผู้เสพความตายจริงไหม

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ เธอไม่เคยมีตรามารและไม่เคยเป็นสาวกเต็มตัว แต่แนวคิดของเธอเหมือนกับสามีของเธอจนกระทั่งโวลเดอมอร์วางแผนเรื่องการตายของลูกชายเธอ

Emzzy: คุณวีสลีย์ได้ลองซ่อมมอเตอร์ไซค์ของซิเรียสไหม

J.K. Rowling: แน่นอนค่ะ แล้วมันก็กลายเป็นสมบัติของแฮร์รี่

Lulu: คุณคิดว่าดัมเบิลดอร์ชื่นชอบรอนมากกว่าที่รอนหรือแฮร์รี่รู้สึกไหมคะ

J.K. Rowling: ใช่ค่ะ ฉันคิดนะ จากสิ่งที่แฮร์รี่เล่าถึงรอน และรายงานจากบรรดาศาสตราจารย์ที่ได้สอนรอน ดัมเบิลดอร์เข้าใจรอนมากกว่าที่เขารู้ และชอบเขาด้วย

Chelatina: ฟีเรนซีได้รับการต้อนรับกลับเข้าฝูงไหม

J.K. Rowling: ค่ะ คนอื่น ๆ ในฝูงจำต้องยอมรับว่าความโอนเอียงเข้าข้างมนุษย์ของฟีเรนซีไม่ได้น่าละอาย แต่น่าชื่นชม

Kristy: ฉากโปรดที่คุณชอบเขียนในเครื่องรางยมทูตคือฉากไหนคะ

J.K. Rowling: บทที่ 34 คืนสู่ป่า ค่ะ

Chely: ผู้พิทักษ์ของเจมส์เป็นกวางตัวผู้ ส่วนผู้พิทักษ์ของลิลี่เป็นกวางตัวเมีย เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ ผู้พิทักษ์มักจะเปลี่ยนแปลงไปตามรูปลักษณ์ของคนรักของแต่ละคน (เพราะพวกเขามักจะเป็น “ความคิดที่เป็นสุข” ที่ทำให้เกิดผู้พิทักษ์)

Jon: เนื่องจากโวลเดอมอร์กลัวความตาย เขาได้เลือกจะกลายเป็นผีไหม แล้วถ้าเป็น เขาจะไปหลอกหลอนอยู่ที่ไหน หรือเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เพราะฮอร์ครักซ์ของเขา

J.K. Rowling: ไม่ค่ะ เขาไม่ได้กลายเป็นผี เขาต้องอยู่ในร่างเล็กลีบแบบที่เราเห็นในคิงส์ครอส

Angela Morrissey: มีฮอร์ครักซ์ 7 ชิ้น ไม่ใช่ 6 ชิ้นอย่างที่ดัมเบิลดอร์บอกแฮร์รี่ใช่ไหม แล้วถ้าใช่ นั่นหมายความว่าโวลเดอมอร์มีจิตวิญญาณ 8 ส่วน ไม่ใช่ 7 ส่วนหรือเปล่า

J.K. Rowling: ใช่ค่ะ โวลเดอมอร์แบ่งวิญญาณเขาออกเป็น 8 ส่วนโดยบังเอิญ ไม่ใช่ 7

Laura Trego: เฮอร์ไมโอนี่ได้เสกคาถาลบความจำใส่พ่อแม่เธออย่างที่บอกจริงหรือเปล่าในเมื่อประมาณ 50 หน้าถัดมาเธอบอกรอนว่าเธอไม่เคยใช้คาถาลบความจำมาก่อน

J.K. Rowling: มันเป็นคาถาที่แตกต่างกันค่ะ เธอไม่ได้ลบความทรงจำของพ่อแม่ (แบบที่เธอทำกับโดโลฮอฟและโรวล์ในภายหลัง) เธอเสกให้พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนอื่น 

Maura: ทำไมโวลเดอมอร์ไม่ใช้การสกัดใจจากแฮร์รี่อีกเหมือนที่เขาเคยใช้ในเล่ม 6

J.K. Rowling: เขาสูญเสียการควบคุมและไม่สามารถหยุดแฮร์รี่ไม่ให้รู้ความคิดเขาได้ โวลเดอมอร์ที่ไม่รู้เลยว่าแฮร์รี่เป็นฮอร์ครักซ์ของตัวเองก็ไม่เคยเข้าใจการเชื่อมต่อของทั้งคู่อย่างถ่องแท้

Gandalfxj9: ครัมเคยพบรักไหม

J.K. Rowling: แน่นอน แม้เขาจะต้องเดินทางกลับไปที่บัลแกเรียบ้านเกิดเขาเพื่อจะได้เจอก็เถอะ

Twinkletoes: ทำไมถึงคิดว่าการตายของเฮ็ดวิกเป็นสิ่งจำเป็น

J.K. Rowling: การสูญเสียเฮ็ดวิกไปเป็นตัวแทนของการสูญเสียความไร้เดียงสาและความปลอดภัย เธอเป็นเหมือนกับตุ๊กตากอดอุ่นของแฮร์รี่ในตอนนั้น การที่โวลเดอมอร์ฆ่าเธอเป็นสัญญาณว่าวัยเด็กได้จบลงแล้ว ขอโทษนะคะ… ฉันรู้ว่าการตายนั้นทำให้หลายคนหงุดหงิด!

Lecanard: เราจะได้เห็นแฮร์รี่และเพื่อน ๆ มีประวัติของตัวเองอยู่บนการ์ดกบช็อกโกแลตไหม

J.K. Rowling: เห็นแน่ค่ะ รอนจะบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาเลย

Mike: คาถาอะไรใช้สร้างฮอร์ครักซ์

J.K. Rowling: คงบอกไม่ได้ค่ะ บางอย่างไม่พูดถึงจะดีกว่า

Samantha: สเนปเป็นผู้เสพความตายเพียงคนเดียวที่สามารถเสกคาถาผู้พิทักษ์อย่างสมบูรณ์ได้ใช่ไหมคะ

J.K. Rowling: ใช่ค่ะ เพราะผู้พิทักษ์นั้นใช้ต้านสิ่งที่ผู้เสพความตายมักจะสร้างขึ้นหรือร่วมสู้ พวกเขาไม่ต้องการผู้พิทักษ์

Jess: นากินีเห็นแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ได้ยังไงถ้าพวกเขาอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน

J.K. Rowling: สัมผัสของงูแตกต่างจากของคนค่ะ พวกมันตรวจจับความร้อนและการเคลื่อนไหวในแบบที่เราทำไม่ได้

Chucky: คุณมีตัวเลือกอื่นสำหรับชื่อหนังสือไหมนอกจากเครื่องรางยมทูต

J.K. Rowling: ชื่ออื่น ๆ ที่เป็นไปได้สองชื่อคือ “ไม้เอลเดอร์” (ที่ถูกนำไปใช้เป็นชื่อบทแทน) และ “ภารกิจของเพฟเวอเรลล์” ที่ฉันตัดสินใจตัดออกไปเร็วมาก ฉันว่าคำว่า “ภารกิจ” มันดูซ้ำซากไปหน่อย

Iglooanne: ผู้พิทักษ์ของคุณจะเป็นอะไร

J.K. Rowling: ฉันชอบนากเหมือนเฮอร์ไมโอนี่ค่ะ แต่มีความรู้สึกว่ามันจะออกมาเป็นหมาตัวใหญ่

The Stoic Cycle: ทำไมโวลเดอมอร์ไม่รู้เลยว่าแหวนตระกูลก๊อนท์คือเครื่องราง ตอนที่เขาสวมมัน (เหมือนที่ความทรงจำในสมุดบันทึกเอาให้แฮร์รี่ดูในเล่ม 2)

J.K. Rowling: การใส่แหวนไม่ได้ทำให้หินใช้งานได้ค่ะ ตอนแรกหินนี้มีอยู่นอกแหวน และการจะใช้มันได้คุณต้องหมุนมันสามรอบในมือ

Finchburg: ตรามารยังปรากฏอยู่บนตัวของคนที่โวลเดอมอร์ประทับตราไว้ไหมหลังเขาตาย หรือรอยสักนั้นหายไปแล้วเมื่อเขาจากไป ขอบคุณที่สนใจคำถามของผมนะครับ!  

J.K. Rowling: ด้วยความยินดีค่ะฟินช์เบิร์ก! ตรามารจะจางลงกลายเป็นแผลเป็น ไม่ต่างกับแผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผากแฮร์รี่ ก็เหมือน ๆ กับแฮร์รี่ค่ะ แผลเป็นจะไม่แสบหรือเจ็บอีกแล้ว

Katie Mosher: เดอะควิลเบลอร์เป็นยังไงบ้างคะตอนนี้

J.K. Rowling: จริง ๆ แล้วก็ไปได้สวยค่ะ มันก็กลับมาอยู่ในสภาวะปกติของความฟั่นเฟือนระดับแนวหน้า และได้รับการยกย่องเพราะอารมณ์ขันที่ไม่ได้ตั้งใจของมันด้วย  

Camille: คุณโรว์ลิ่งที่รัก ฉันขอใช้โอกาสนี้กล่าวขอบคุณที่ทำให้ฉันทั้งหัวเราะและร้องไห้ (หนักมาก! ส่วนมากร้องให้กับซิเรียส!) ตั้งแต่ตอนที่ฉันอายุ 11 และมันก็เป็นเวลานานอยู่เหมือนกันสำหรับฉันเพราะตอนนี้ฉัน 20 ปีแล้ว เวทมนตร์ของแฮร์รี่และคุณจะคงอยู่กับฉันไปเสมอ ขอบคุณค่ะ!

J.K. Rowling: ขอบคุณมากค่ะคามิล ขอโทษเรื่องซิเรียสด้วยนะคะ ผู้ชายคนนี้มีแฟนคลับเยอะจริง ๆ ส่วนใหญ่เป็นสาว ๆ ด้วย

Nicofr: วิงกี้ยังดื่มบัตเตอร์เบียร์หนักเหมือนเดิมไหม

J.K. Rowling: เพลา ๆ ลงแล้วค่ะตอนนี้

Isabel: เบลลาทริกซ์รักสามีจริง ๆ ไหม หรือรักแค่โวลเดอมอร์

J.K. Rowling: เธอเลือกสามีเลือดบริสุทธิ์เพราะถูกคาดหวังไว้แบบนั้น แต่รักแท้ของเธอก็เป็นโวลเดอมอร์มาเสมอค่ะ

jenny: สเนปเก็บความลับเรื่องผู้พิทักษ์ของเขาจากคนอื่น ๆ ในภาคีได้ยังไง

J.K. Rowling: สเนประมัดระวังที่จะไม่ใช้ผู้พิทักษ์ในการสื่อสารกับพวกเขา ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าดูจากงานของเขาในภาคี เช่น การเป็นสายสืบ การส่งผู้พิทักษ์ไปคุยกับใครก็ตามก็อาจจะเป็นการเปิดเผยว่าเขาเป็นพันธมิตรของฝ่ายไหน

Darchey: โวลเดอมอร์เคยรักผู้หญิงคนไหนไหมคะ

J.K. Rowling: ไม่เลยค่ะ เขารักก็แต่อำนาจและตัวเอง เขาเห็นค่าก็เฉพาะแต่คนที่เขาสามารถใช้เพื่อสำเร็จในเป้าหมายของเขาได้

Leo: ไม้กายสิทธิ์ของคุณจะทำมาจากอะไร

J.K. Rowling: ฉันชอบไม้ของแฮร์รี่ค่ะ ทำจากไม้ฮอลลี่และขนนกฟีนิกซ์

Brian: กองทัพดัมเบิลดอร์ยังเก็บเหรียญไว้ไหมคะ

J.K. Rowling: อยู่แล้วค่ะ มันก็คงจะเหมือนเข็มกลัดหรือเหรียญกล้าหาญ หลักฐานว่าเจ้าของของมันเคยเป็นแกนหลักในการต่อสู้กับโวลเดอมอร์ตั้งแต่แรกเริ่ม! ฉันชอบจินตนาการว่าเนวิลล์จะเอามันไปอวดกับนักเรียนที่ชื่นชอบเขา

Tracie: รู้สึกโล่งใจแค่ไหนคะที่ได้พูดคุยเกี่ยวกับซีรีส์นี้โดยไม่ต้องเก็บความลับอีกแล้ว

J.K. Rowling: เบิกบานเลยค่ะ! ดีมากเลยที่ได้ทำเรื่องแบบนี้ในที่สุด ฉันรอคอยเวลานี้มานานแล้ว!

Lou: สเนปเข้าไปในกริมโมลด์เพลซเพื่อไปเอาอีกครึ่งหนึ่งของจดหมายมาได้ยังไงถ้ามีคาถาป้องกันอยู่ที่บ้านเพื่อไม่ให้สเนปเข้าไป

J.K. Rowling: สเนปเข้าไปในบ้านทันทีที่ดัมเบิลดอร์ตาย ก่อนที่มู้ดดี้จะมาร่ายคาถาต่อต้านเขา

Koen Van Der Voort: ทำไมรอยแผลเป็นบนหน้าผากแฮร์รี่ต้องเป็นสายฟ้า

J.K. Rowling: เอาตรง ๆ เลยก็เพราะว่ามันเป็นรูปทรงเท่ ๆ ค่ะ ฉันคงไม่ยอมให้ฮีโร่ของฉันมีแผลเป็นรูปโดนัทหรอก

Louie: รอยสิวของมารีเอตต้าจางลงไปไหม

J.K. Rowling: จางไปในที่สุด แต่ก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้ไม่กี่จุด ฉันเกลียดคนทรยศ!

Katie B: ทำไมคิงส์ครอสเป็นสถานที่ที่แฮร์รี่ไปตอนเขาตาย

J.K. Rowling: ด้วยหลายเหตุผลค่ะ ชื่อก็ฟังดูดี และในหนังสือมันก็เปิดตัวในฐานะสถานที่ที่เป็นประตูเชื่อมระหว่างสองโลก และแฮร์รี่ก็เกี่ยวข้องกับมันเมื่อต้องเดินทางไประหว่างสองโลก (อย่าลืมว่านี่คือภาพที่แฮร์รี่เห็นนะคะ อาจจะไม่จำเป็นก็ได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้นจริง ๆ) ดูเหมือนจะเกินเวลาแล้วค่ะ ฉันทราบมาว่าเรามีคำถามเข้ามาเกิน 120,000 คำถามเลย! จะว่ายังไงดี ขอบคุณจริง ๆ ที่ยังอยู่กับฉันและแฮร์รี่มานานขนาดนี้ พวกคุณทำให้นี่กลายเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษสำหรับนักเขียนของแฮร์รี่ ฉันชอบคำถามนี้จัง ขอเลือกคำถามนี้เป็นคำถามสุดท้ายนะคะ

Tess: เพลงมักเกิ้ลเพลงไหนที่คุณคิดว่าจะถูกเปิดในงานศพของดัมเบิลดอร์

J.K. Rowling: แน่นอนว่าต้องเป็น “I did it my way” ของแฟรงค์ ซิเนตร้าค่ะ ฉันรู้ดีว่าฉันไม่ได้ตอบทุกคำถาม แต่ว่าจับตาดูเว็บไซต์ฉันให้ดีนะคะ และฉันจะพยายามตอบคำถามมากกว่านี้ในเร็ว ๆ นี้! นั่นแหละ ฉันจะหายตัวแล้ว บาย! ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ ฉันมีช่วงเวลาที่ดีมากเลย และหวังว่าฉันตอบคำถามที่เด่น ๆ ครบแล้วนะ (ฉันได้ยินเสียงตะโกนไกล ๆ ว่า “เธอยังไม่ตอบของฉันเลย!”)


ต้นฉบับบทสัมภาษณ์จาก Accio-Quote