Author: onceuponasummer1898
คาถาสะอาดเอี่ยม (Scouring Charm) ตั้งแต่คราบน้ำฟักทอง เศษเครื่องในกบ ยันปุ๋ยมูลมังกรเกรอะกรัง คาถาสะอาดเอี่ยมอันยอดเยี่ยมจะทำให้มันอันตรธานไปจนหมด วิธีการร่ายการขจัดคราบอันไม่พึงประสงค์ ให้ร่ายคาถา ‘สเกอร์จิฟาย (Scourgify)’ ท่าทางในการร่ายขยับไม้กายสิทธิ์ให้เรียบลื่นเป็นเส้นคดเคี้ยวเหมือนอักษร ‘S’ (ดูภาพ K) หมายเหตุหากคุณโตมาในครอบครัวผู้วิเศษที่มีเอลฟ์ประจำบ้าน คุณอาจจะรู้สึกว่าการใช้เวทมนตร์ในการทำความสะอาดด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ต่ำต้อยเกินไป แต่สบายใจได้ ครั้งแรกที่คุณต้องการจะล้างยางเหม็นออกจากเน็กไทโรงเรียนโดยไม่มีเอลฟ์ประจำบ้านคอยช่วยล่ะก็ คุณก็จะรู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้เรียนคาถาสะอาดเอี่ยมแน่
คาถาซ่อมแซม (Mending Charm) คาถาซ่อมแซมจะซ่อมแซมข้าวของที่พังได้ด้วยการสะบัดไม้ อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรู้จักการแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง อย่างไรก็ตาม นักเรียนจอมซุ่มซ่ามควรจำไว้ให้ดีว่าการใช้คาถานี้ได้อย่างเชี่ยวชาญนั้นไม่สามารถทดแทนการเรียนรู้ที่จะไม่ทำอะไรพังไปตั้งแต่แรกได้ คาถาปรับปรุงและซ่อมแซมมากมายถูกใช้กันมาหลายศตวรรษ แต่บทที่ได้ผลและทรงพลังที่สุดนั้นคิดค้นขึ้นโดยออราเบลล่า นัตต์ลีย์ (Orabella Nuttley) ในศตวรรษที่ 18 เพราะเป็นเสมียนผู้ต่ำต้อยในกระทรวงเวทมนตร์ ของกองตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ไม่ถูกต้อง ความเขินอายอย่างยิ่งยวดของออราเบลล่าคืออุปสรรคในหน้าที่การงานของเธอ ทั้งขี้กลัว นั่งบื้อใบ้เสมอในที่ประชุม และลุกลนเหลือเกินทุกครั้งที่พูด ออราเบลล่าจึงถูกมอบหมายให้ทำงานแสนธรรมดาที่สุดในสำนักงาน เช่น งานเอกสาร งานขัดถูและทำความสะอาดนกฮูกของกอง กระนั้น เมื่ออยู่บ้านออราเบลล่าได้ใช้เวลาว่างของเธอไปกับการทดลองคาถาด้วยความพยายามที่จะพัฒนาและเสริมความแข็งแกร่งให้กับคาถาที่เคยใช้ในวัยเยาว์ เรื่องแสนบังเอิญจึงนำไปสู่การเปิดเผยพรสวรรค์ที่ถูกซ่อนไว้ของออราเบลล่า ในปี …
โดย Brian Bethune จากนิตยสาร Maclean’s วันที่ 6 พฤศจิกายน 2000 หนึ่งเดียวในโลกนี้ที่สามารถเย้ายวนใจเด็ก ๆ กว่า 15,000 คนให้มาที่สนามเบสบอลเพื่อฟังใครบางคนอ่านหนังสือ ในที่สุดก็มาถึงแคนนาดาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน นักเขียนชาวอังกฤษ โจแอนน์ แคธลีน โรว์ลิ่ง ผู้รังสรรค์หนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง มาที่โทรอนโตและแวนคูเวอร์เพื่อพบปะแฟน ๆ และร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อช่วยระดมทุนให้วรรณกรรมเด็ก เพื่อตกเป็นพาดหัวข่าวเรื่องงานอ่านวรรณกรรมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดขึ้น และโดยไม่บังเอิญ เพื่อการรื้อฟื้นมิตรภาพที่แสนมหัศจรรย์ซึ่งเริ่มต้นด้วยจดหมายที่เธอได้รับในเดือนกรกฎาคม ปี 1999 ขณะนั้น …
ฉันให้แฮร์รี่ใช้ไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากไม้ฮอลลี่ ย้อนกลับไปปี 1990 ตอนที่ฉันเริ่มร่างบทที่ 6 ของ “ศิลาอาถรรพ์” มันไม่ใช่การตัดสินใจโดยไร้เหตุผล ไม้ฮอลลี่มีความหมายแฝงบางอย่างที่เหมาะสมกับแฮร์รี่ โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทียบเคียงกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวกับต้นยู ซึ่งเป็นไม้ที่ใช้ทำไม้กายสิทธิ์ของโวลเดอมอร์ วัฒนธรรมยุโรปว่ากันว่าต้นฮอลลี่ (ชื่อมาจากคำว่า holy (ศักดิ์สิทธิ์)) ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ในขณะที่ต้นยูซึ่งสามารถมีชีวิตยืนยาวอย่างน่าอัศจรรย์ (มีต้นยูอังกฤษหลายต้นที่อายุมากกว่า 2,000 ปี) สามารถใช้เป็นสัญลักษณ์ของทั้งความตายและการคืนชีพ ยางของมันก็เป็นพิษด้วย ช่วงหนึ่ง หลังจากที่ฉันได้ให้แฮร์รี่ใช้ไม้กายสิทธิ์ที่ทำมาจากไม้ฮอลลี่และขนนกฟีนิกซ์แล้ว ฉันก็ไปเจอคำบรรยายเรื่องชาวเคลต์ (เคลติก) กำหนดต้นไม้ให้กับช่วงต่าง ๆ ของปี …
เมลิซซา แอเนลลี (Melissa Anelli) ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ The Leaky Cauldron และ เอเมอร์สัน สปาร์ซ (Emerson Spartz) ผู้ก่อตั้ง MuggleNet สัมภาษณ์ Joanne Kathleen Rowling (เจ.เค.โรว์ลิ่ง) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2005 (ตอนที่ 1) เอดินบะระ, สกอตแลนด์Emerson Spartz, …
บทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ.2007 9 วันหลังหนังสือ Harry Potter and the Deathly Hallows ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (21 กรกฎาคม 2007) ต้นฉบับบทสัมภาษณ์จาก Accio-Quote J.K. Rowling: ฉันอยู่นี่และรอไม่ไหวแล้ว! เอาคำถามมาเลยค่ะ! Leaky Cauldron: โลกเวทมนตร์ได้อะไรเป็นบทเรียนและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในแง่ของผลกระทบโดยตรงจากสงครามกับโวลเดอมอร์ (ไม่ใช่ผลลัพธ์แบบหน้าที่การงานในอนาคตของแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่) …
บทความนี้เป็นเนื้อหาจากเว็บไซต์ทางการเวอร์ชั่นเก่าของเจ.เค.โรว์ลิ่ง ปัจจุบันเนื้อหาส่วนนี้ไม่มีอยู่ในเว็บไซต์ปัจจุบันแล้ว ในที่สุดฉันก็ได้ตอบคำถามที่มาจากการสำรวจแล้ว! ขอโทษนะคะที่ต้องรออยู่นาน แต่ขอเริ่มจากการบอกว่าฉันดีใจมากแค่ไหนที่คำถามนี้เป็นคำถามที่ได้รับการโหวตมากที่สุด เพราะนี่เป็นคำถามที่ฉันอยากจะตอบที่สุดเลย พวกคุณบางคนอาจจะไม่ชอบสิ่งที่ฉันจะพูดต่อจากนี้แต่ฉันจะชี้แจงประเด็นนั้นหลังจากตอบจบนะคะ! สรุปเลยก็คือเนวิลล์เกิดในวันที่ 30 กรกฎาคม หนึ่งวันก่อนที่แฮร์รี่จะเกิด ดังนั้นเขาก็เป็นอีกคนที่เกิด “ในเดือนที่เจ็ดวางวาย” พ่อแม่ของเขาก็เป็นมือปราบมารที่มีชื่อเสียงทั้งคู่และเคย “ท้าทายโวลเดอมอร์ถึงสามหน” เหมือนกับลิลี่และเจมส์ ดังนั้นโวลเดอมอร์จึงมีเด็กสองคนเป็นตัวเลือกที่คำทำนายอาจจะกล่าวถึง อย่างไรก็ดีเขายังไม่รู้ว่าผลของการจู่โจมพวกเขาจะเป็นอย่างไร เพราะเขาไม่ได้ยินคำทำนายทั้งหมด อย่างที่ดัมเบิลดอร์บอกว่า “เขา (คนที่ดักฟัง) ได้ยินแค่ตอนต้น ตอนที่ทำนายการเกิดของเด็กผู้ชายในเดือนกรกฎาคม กับพ่อแม่ที่เคยท้าทายโวลเดอมอร์มาแล้วสามหน ด้วยเหตุนี้เองเขาถึงไม่สามารถเตือนเจ้านายของเขาได้ว่าการบุกโจมตีเธออาจจะเสี่ยงต่อการส่งถ่ายอำนาจไปให้เธอ” – อัลบัส ดัมเบิลดอร์ …
Q: คุณได้เขียนรายละเอียดมากกว่าที่เราเห็นในหนังสัตว์มหัศจรรย์เหมือนที่คุณทำกับหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ไหม? A: Warner Bros ได้ซื้อลิขสิทธิ์สัตว์มหัศจรรย์ไว้เมื่อหลายปีก่อนแล้ว ฉันเลยรู้ว่าวันหนึ่งมันอาจจะกลายเป็นหนัง แต่ที่เราเคยคุยกันไว้มันก็ค่อนข้างกว้างมาก ฉันจำได้ว่าเคยคิดไว้ว่าถ้าเกิดจะมีอะไรงอกออกมาจากเรื่องนี้ฉันก็ต้องมั่นใจได้ว่าเขาสร้างนิวท์ สคามันเดอร์ออกมาได้อย่างถูกต้อง เพราะถึงแม้เขาจะไม่เคยปรากฏตัวในหนังสือพอตเตอร์เลยนอกจากชื่อแต่ฉันก็รู้เรื่องของเขาดี เขายึดครองจินตนาการของฉันไว้ตอนที่ฉันเขียนหนังสือเล่มเล็กๆ ของเขา ฉันเห็นภาพผู้ชายที่แปลกประหลาดอย่างดื้อรั้นและงุ่มง่าม คนที่อ้ำอึ้งเมื่ออยู่กับมนุษย์แต่เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์อย่างมหัศจรรย์ ส่วนเรื่องของดัมเบิลดอร์กับกรินเดลวัลด์ฉันรู้เรื่องราวมากมายยิ่งกว่าที่อยู่ในหนังสือ และนี่คือโอกาสที่ฉันจะได้แสดงและเล่าเรื่องบางส่วน แน่นอนว่าในหนังนั้น การจะเปิดเผยเรื่องราวต่าง ๆ มันแตกต่างกับในหนังสือมาก บางครั้งภาพเดียวก็แทนการบรรยายไปได้สามย่อหน้าเลย อย่างที่นักอ่านที่ได้อ่านหนังสือก็รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้เจอกันมานานในระหว่างช่วงเวลาที่พวกเขาได้มีปฏิสัมพันธ์กันตอนเป็นวัยรุ่น จนมาถึงการเผชิญหน้าแห่งยุคสมัยในปี 1945 อย่างไรก็ตาม เราก็จะเล่าเรื่องปูมหลังของพวกเขาในหนังด้วย Q: …