กองปริศนา (Department of Mysteries)

กองปริศนาเป็นหนึ่งในแผนกของกระทรวงเวทมนตร์แห่งเกาะบริเตน เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในกองแห่งนี้จะทำงานเพื่อการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับความลับของจักรวาล เวลา ชีวิต ความตาย และปริศนาของเวทมนตร์ต่าง ๆ

ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ากองปริศนาก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่ ทราบเพียงว่าก่อตั้งก่อนปี 1672 (นิทานของบีเดิลยอดกวี น.94)

ตำแหน่งที่ตั้ง

กองปริศนา ตั้งอยู่ลึกลงไปชั้นที่ 9 ของกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายที่ลิฟต์ลงมาถึง (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.7)

จากประตูลิฟต์ ระเบียงทางเดินของกองปริศนาค่อนข้างแตกต่างจากระเบียงข้างบน ผนังสองด้านว่างเปล่า ไม่มีหน้าต่างหรือประตูใด ๆ เลยนอกจากประตูสีดำเกลี้ยง ๆ ตรงสุดทาง ด้านซ้ายของทางเดินเป็นบันไดลงไปสู่ห้องพิจารณาคดี (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.7)

ประตูทางเข้ากองปริศนา

เมื่อเปิดประตูบานสีดำเข้ามา จะพบกับห้องใหญ่รูปทรงกลม ภายในห้องล้วนเป็นสีดำทั้งพื้น เพดาน และบานประตูที่ไม่มีลูกบิด มีอยู่ราวสิบสองบาน แต่ละบานตั้งอยู่ห่างกันในระยะที่เท่ากัน และหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ระหว่างประตูแต่ละบานคั่นด้วยเชิงเทียนที่มีเปลวไฟสีน้ำเงินเย็นตาริบหรี่ บนพื้นหินอ่อนสีดำเป็นมัน ทำให้ดูเหมือนพื้นน้ำสีคล้ำ กำแพงและบานประตูภายในหมุนเคลื่อนที่เร็วจี๋เพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาจดจำได้ ทุกครั้งที่บานประตูใดถูกปิด รวมถึงบานที่เปิดเข้ามาในห้อง กำแพงและบานประตูทั้งหมดจะหมุนเคลื่อนไป (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34)

ภาพห้องทรงกลมจากปกหลังของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ ของสำนักพิมพ์ Scholastic ฉบับครบรอบ 15 ปี วาดโดย Kazu Kubuishi
ภาพห้องทรงกลมจากปกหลังของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ ของสำนักพิมพ์ Scholastic ฉบับครบรอบ 15 ปี วาดโดย Kazu Kubuishi

คุณสามารถเสกคาถาฟลากราเต เพื่อสร้างกากบาทสีแดงบนบานประตูได้ แต่มันจะคงอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.869)

ดูเหมือนบานประตูในห้องกลมนี้จะเปิดเมื่อแสดงความต้องการว่าจะไปที่ไหน ตอนที่แฮร์รี่พยายามไล่ตามเบลลาทริกซ์ เขาตะโกนท่ามกลางห้องกลมที่หมุนเร็วจี๋ว่า “ทางออกอยู่ที่ไหน” และห้องดูเหมือนรอให้เขาถาม แล้วประตูที่อยู่ด้านหลังเขาก็เปิดออกไปสู่ระเบียงทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ลิฟต์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.36 น.885)

ห้องต่าง ๆ ในกองปริศนา

หลังบานประตูทั้ง 12 บาน เราทราบข้อมูลเพียง 6 ห้อง และคาดเดาว่าอีกบานหนึ่งในสิบสองบานนั้นนับรวมถึงบานที่เปิดเข้ามาในห้องทรงกลมนี้ด้วย ใน 6 ห้องที่มีข้อมูล หอพยากรณ์เป็นห้องที่ไม่ได้ระบุว่าเชื่อมกับบานหลักใน 12 บานนี้หรือไม่ เพราะแฮร์รี่ต้องเข้าผ่านห้องกาลเวลาเข้าไป

ห้องสมอง (The Brain Room)

เป็นห้องแรกที่แฮร์รี่กับเพื่อน ๆ เปิดเข้าไป ภายในห้องมีโคมไฟที่ห้อยจากเพดานด้วยโซ่สีทอง ให้ความรู้สึกว่าห้องยาวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ห้องแห่งนี้ว่างเปล่า มีโต๊ะทำงานไม่กี่ตัว และตรงกลางห้องมีตู้กระจกมหึมาบรรจุของเหลวสีเขียวเข้มตั้งอยู่ ตู้นั้นใหญ่พอจะให้พวกเขาทุกคนลงไปว่ายน้ำได้ ภายในตู้กระจกคือสมองที่ขาวเหมือนไข่มุกลอยเอื่อย ๆ อยู่ในตู้ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34)

ตอนที่รอนเสกคาถาเรียกของเอาสมองออกมาจากตู้ มันมีสิ่งที่เหมือนริบบิ้นภาพเคลื่อนไหวหลั่งไหลออกมาจากสมอง และคลี่ตัวออกราวกับม้วนฟิล์ม และเมื่อรอนสัมผัสสมอง หนวดความคิดก็พันรอบแขนของเขาเหมือนเชือก และพยายามจะพันทั้งตัวรอนอย่างรวดเร็วเหมือนปลาหมึกยักษ์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.872)

ภายในห้องสมองยังมีบานประตูอื่นหลายบานอยู่ตามกำแพงด้วย (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34 น.845, บ.35 น.871) บานประตูบานหนึ่งเชื่อมไปยังห้องมรณะ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.873)

ห้องมรณะ (The Death Chamber)

ภาพก้องมรณะ โดย Pottermore
ภาพห้องมรณะ โดย Pottermore

ห้องนี้มีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกที่แฮร์รี่เข้ามา ภายในห้องจุดไฟสลัว ๆ และเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใจกลางห้องยุบลงไปเป็นบ่อหินขนาดใหญ่ที่ลึกราว ๆ ยี่สิบฟุต โดยรอบของบ่อหินเป็นม้านั่งหินยาวเหยียดไปรอบห้อง และลดต่ำลงไปเป็นขั้นบันไดชัน ๆ เหมือนอัฒจันทร์ กลางบ่อหินมีเวทีที่สร้างขึ้นด้วยหินยกพื้น บนเวทีตั้งซุ้มประตูหินรูปโค้งที่ดูโบร่ำโบราณมาก มันมีรอยร้าวและแตกกระเทาะ ซุ้มประตูหินซึ่งไม่มีกำแพงใดรองรับอยู่ มีเพียงม่านสีดำรุ่งริ่งแขวนไว้ ผ้าม่านซึ่งกระพือไหวนิด ๆ ราวกับมีใครมาสัมผัส ทั้ง ๆ ที่อากาศภายในนั้นเย็นยะเยือกและนิ่งสนิท

แฮร์รี่รู้สึกแปลกประหลาด เหมือนมีใครยืนอยู่ข้างหลังผ้าม่านอีกด้านของซุ้ม แต่ไม่มีใครอยู่ด้านหลังนั้น และมีเพียงแฮร์รี่กับลูน่าที่ได้ยินเสียงกระซิบมาจากซุ้มประตูหินนั้น (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34) เป็นที่ทราบกันดีว่าแฮร์รี่และลูน่ามีประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกับความตายทำให้ทั้งคู่ได้ยินเสียงกระซิบจากหลังผ้าม่านนั้น

ห้องความรัก (The Love Room)

บานประตูของห้องนี้โดนล็อกเอาไว้ เป็นบานที่สามที่แฮร์รี่เลือกผลักเข้าไปแต่ไม่สำเร็จ เฮอร์ไมโอนี่ลองใช้คาถาสะเดาะกลอนแต่ไม่สำเร็จ แฮร์รี่ที่ลองใช้มีดที่ซีเรียสมอบให้ก็ไม่สามารถเปิดได้ หนำซ้ำใบมีดยังโดนหลอมละลายไปอีกด้วย (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34 น.848)

“มีห้องหนึ่งในกองปริศนาที่ถูกปิดล็อกไว้ตลอดเวลา มันบรรจุพลังที่ทั้งวิเศษและร้ายกาจเสียยิ่งกว่าความตาย ยิ่งกว่าปัญญาของมนุษย์ และยิ่งกว่าพลังธรรมชาติใด ๆ มันยังอาจจะเป็นสิ่งที่ลึกลับเป็นปริศนาที่สุดในบรรดาวัตถุใด ๆ ที่เก็บไว้ศึกษาที่นั่นด้วย พลังที่อยู่ในห้องนั้นคือพลังที่เธอมีอยู่มหาศาลและโวลเดอมอร์ไม่มีอยู่เลย พลังนั้นนำเธอไปช่วยซิเรียสเมื่อคืน พลังนั้นยังช่วยให้เธอหลุดพ้นจากการถูกโวลเดอมอร์สิงด้วย เพราะเขาไม่อาจทนอาศัยอยู่ในร่างที่เต็มไปด้วยพลังที่เขาเกลียดชังได้ สุดท้ายแล้วไม่สำคัญเลยว่าเธอจะปิดกั้นความคิดเธอไม่ได้ หัวใจของเธอช่วยชีวิตเธอไว้”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ บอกกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.37 น.922)

คำอธิบายเพิ่มเติมจาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง

“มีอะไรอยู่ในห้องความรักน่ะหรือ มันคือที่ที่พวกเขาศึกษาว่าอะไรคือความหมายของความรัก ในห้องนั้น ฉันเชื่อว่าใจกลางของมันคือน้ำพุหรือบ่อน้ำที่มียาเสน่ห์ เป็นน้ำยาแห่งความรักที่ทรงพลังมาก คุณรู้ว่าครั้งแรกที่พวกเขาเข้าเรียนในห้องปรุงยาของซลักฮอร์น เขาเริ่มต้นบทเรียนด้วยการพูดถึงน้ำยาลุ่มหลง ซึ่งเป็นยาเสน่ห์ และเขาบอกว่ามันเป็นน้ำยาที่อันตรายที่สุดในห้อง และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาจะพบในห้องความรัก คุณจะเห็นบรรดาพ่อมดแม่มดปรุงมัน เพราะพวกเขาต้องการศึกษาผลของมัน ห้องแห่งนี้เลยชัดเจนว่าต้องถูกปิดล็อก และคุณทราบดีว่าประเด็นนี้ดำเนินอยู่ในหนังสือ รักทำอะไร และกระตุ้นให้ผู้คนกล้าหาญขึ้นอย่างยิ่งยวดเพียงใด เหมือนความรักที่อยู่ในตัวลิลี่ แฮร์รี่ และเนวิลล์ ขณะเดียวกันความรักก็นำพวกเขาไปสู่ความโง่เขลาและแม้แต่ความชั่วร้าย อย่างเบลลาทริกซ์ และรวมถึงดัมเบิลดอร์ด้วย เขากลายเป็นคนโง่เขลา เขาหลงลืมจุดสำคัญของตัวเอง หลงลืมศีลธรรมไป เมื่อเขาตกอยู่ภายใต้ความลุ่มหลง นั่นคือสิ่งที่มันทำ สิ่งที่มันสร้างให้เกิดอันตราย ในตัวเบลลาทริกซ์ ที่ฉันคิดว่าชัดเจน ฉันสงสัยว่าผู้คนจะตกใจเป็นพิเศษไหมที่ได้ยิน ฉันแน่ใจว่าพวกเขาคาดการณ์ได้ว่าเบลลาทริกซ์นั้นคลั่งไคล้และมีความรักเพ้อฝันสุดโรแมนติกในตัวโวลเดอมอร์ นี่คือสิ่งที่–ฝังแน่นอยู่ในชีวิตของเธอ” (Pottercast #131)

ห้องกาลเวลา (The Time Room)

ห้องที่แฮร์รี่เห็นในนิมิตที่โวลเดอมอร์หลอกล่อเขาให้เข้าไปตามหาซิเรียส แบล็ก เป็นประตูบานที่สี่ที่แฮร์รี่ผลักเข้าไป หลังจากผลักบานที่สามแล้วโดนล็อก

ภายในห้องมีแสงระยิบระยับราวกับเพชรเต้นวูบวาบอย่างงดงาม ที่มาของแสงเจิดจ้าวูบวาบนี้มาจากครอบแก้วเจียระไนรูประฆังสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่อีกฟากของห้อง ภายในห้องเต็มไปนาฬิกาส่องประกายแวววาวมาจากทุกหนแห่ง ทั้งเรือนเล็กเรือนใหญ่ แบบตั้งพื้นและแบบพกพา แขวนอยู่ตามซอกระหว่างชั้นหนังสือหรือตั้งอยู่บนโต๊ะตลอดความยาวของห้อง เสียงติ๊กต่อกดังไม่หยุดนิ่งไปทั่วห้องราวกับเสียงย่ำเท้าเล็ก ๆ นับพัน

ช่องแคบ ๆ ระหว่างแถวโต๊ะ มีครอบแก้วเจียระไนที่สูงพอ ๆ กับตัวแฮร์รี่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่ง ภายในครอบแก้วเต็มไปด้วยลมที่พัดเป็นคลื่นและส่องแสงแปลบปลาบ

ในใจกลางของครอบแก้วรูประฆังที่ตั้งอยู่อีกฟากของห้อง ด้านในของมันมีไข่ฟองเล็กกระจิริดที่ส่องประกายราวอัญมณี ขณะที่มันลอยขึ้นเรื่อย ๆ ไข่ก็แตกอ้าออก แล้วนกฮัมมิ่งเบิร์ดก็โผล่ออกมา มันถูกพาลอยขึ้นไปจนถึงยอดของครอบแก้ว และเมื่อมันเลื่อนต่ำลงมาตามกระแสลม ขนของมันก็เริ่มเปรอะและชื้นอีกหน และเมื่อลงไปถึงพื้นครอบแก้ว มันก็ถูกปิดมิดชิดอยู่ในไข่ตามเดิม

สุดทางเดินของห้องกาลเวลาคือบานประตูที่เชื่อมไปยังหอพยากรณ์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34)

บานประตูบานหนึ่งบริเวณกลางห้องพาไปยังห้องทำงานเล็ก ๆ มืด ๆ ที่แออัด (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34 น.865)

เครื่องย้อนเวลาทั้งหมดที่มีอยู่ในกระทรวงเวทมนตร์ ถูกทำลายไประหว่างเหตุการณ์ต่อสู้ในกองปริศนาของกลุ่มแฮร์รี่กับผู้เสพความตายที่ต้องการลูกแก้วพยากรณ์ไปให้โวลเดอมอร์ ในเดือนมิถุนายน 1996 (Pottermore) โดยฝีมือของผู้เสพความตายที่มีหัวเป็นทารกเพราะหัวติดเข้าไปในครอบแก้วรูประฆัง เครื่องย้อนเวลาเหล่านั้นล้มลง แตกกระจาย แล้วซ่อมตัวเองกลับไป และวนไปวนมาอยู่แบบนั้น (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.868)

หอพยากรณ์ (The Hall of Prophecy)

ห้องที่แฮร์รี่มองเห็นผ่านนิมิตที่เชื่อมต่อกับโวลเดอมอร์ และโวลเดอมอร์ใช้ความเชื่อมโยงนี้ล่อให้แฮร์รี่หาทางมาเพื่อช่วยซิเรียส แบล็ก แต่ในความเป็นจริง เขาต้องการให้แฮร์รี่มาเอาลูกแก้วพยากรณ์แทนเขา (ที่ไม่อยากเสี่ยงเปิดเผยตัวตนต่อโลกเวทมนตร์ หากใครสักคนเกิดเห็นว่าเขายังมีชีวิตอยู่จริง)

ตัวห้องมีความสูงราวกับโบสถ์ หนาวเย็นมาก และไม่มีอะไรอื่นใดเลยนอกจากชั้นสูงตระหง่านที่วางลูกแก้วกลม ๆ เล็ก ๆ ฝุ่นจับเขรอะ ลูกแก้วทอประกายทึบ ๆ อยู่ในแสงสีน้ำเงินจากเชิงเทียนที่ติดเป็นระยะตามชั้นเหล่านี้

ประตูที่เปิดมาจากห้องกาลเวลานำไปสู่แถวที่ 53 (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.34 น.850) และลูกแก้วที่มีคำพยากรณ์หายนะเกี่ยวกับโวลเดอมอร์และแฮร์รี่อยู่ที่ชั้นที่ 97

ลูกแก้วแต่ละลูกบนชั้นมีป้ายสีเหลืองเล็กจิ๋วยื่นออกมาจากใต้ลูกแก้ว เพื่อบอกข้อมูลว่าใครเป็นผู้ทำนาย ใครได้ยินคำทำนาย และคำทำนายกล่าวถึงใคร เขียนด้วยลายมือของผู้ปิดปากเงียบ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.37 น.920) บางลูกมีแสงเรืองรองแปลกประหลาดคล้ายของเหลวอยู่ข้างใน บางลูกดูทึบและดำคล้ำเหมือนหลอดไฟแตก ๆ

“คนที่คำทำนายพูดถึงเท่านั้นจึงจะหยิบมันออกมาจากชั้นได้โดยไม่กลายเป็นบ้า”

– ออกัสตัส รู้กวู้ด (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.37)

ห้องดาวเคราะห์ (The Planet Room)

ห้องมืด ๆ ที่เต็มไปด้วยดาวเคราะห์ ลูน่าบอกว่ามันเป็นห้องที่แปลกมาก ๆ เพราะบางครั้งมันให้ความรู้สึกเหมือนลอยตัวอยู่ในความมืด (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.869) ประตูอย่างน้อยหนึ่งบานในห้องนี้เชื่อมไปยังห้องสมอง

ผู้ปิดปากเงียบแห่งกองปริศนา

การทำงานในกองปริศนาเป็นความลับอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเวทมนตร์ในกองนี้รู้จักกันในนาม “ผู้ปิดปากเงียบ (Unspeakable)”

“แล้วนั่นก็โบ๊ดกับโครเกอร์… เป็นผู้ปิดปากเงียบ… จากกองปริศนา ลับสุดยอดเลยล่ะ ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขากำลังทำเรื่องอะไรอยู่…”

– อาเธอร์ วีสลีย์ (ถ้วยอัคนี บ.7 น.91)
  • บรอเดอริก โบ๊ด – เป็นผู้ปิดปากเงียบแห่งกองปริศนา ถูกฆ่าตายด้วยกับดักมารระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่เซนต์มังโก
  • ศาสตราจารย์ซอล โครเกอร์ – ผู้ปิดปากเงียบอีกคน ผู้ใช้ชีวิตหลักอุทิศตัวให้กับการศึกษาเกี่ยวกับการย้อนเวลา ซึ่งรวมถึงการประดิษฐ์เครื่องย้อนเวลาด้วย (ถ้วยอัคนี บ.7, เด็กต้องคำสาป, Pottermore)
  • เอลัวอิส มินทัมเบิล (Eloise Mintumble) – ผู้ปิดปากเงียบที่ทำงานในห้องกาลเวลา เธอติดอยู่ในปี ค.ศ.1402 เป็นเวลา 5 วัน ขณะที่ความเป็นจริงเธอแก่ขึ้นถึง 500 ปีเมื่อกลับมาในยุคปัจจุบัน และเสียชีวิตอย่างรวดเร็วที่โรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโก (Pottermore)
  • ออกัสตัส รู้กวู้ด – ผู้เสพความตายที่เป็นสายให้กับลอร์ดโวลเดอมอร์ คอยเอาข้อมูลจากในกระทรวงไปบอกจอมมาร ซึ่งรวมถึงเรื่องลูกแก้วพยากรณ์ที่เก็บคำพยากรณ์ของเขากับแฮร์รี่ด้วย (ถ้วยอัคนี บ.30, ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.26)
  • เลวิน่า มังค์สแตนลีย์ (Levina Monkstanley) – เธอเป็นคนแรกที่ค้นพบคาถาลูมอส และน็อกซ์ ที่ใช้เปิดไฟจากปลายไม้กายสิทธิ์และดับไฟ ในปี 1772 อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาทำงานอะไรในกองปริศนา (Wonderbook: Book of Spells)

ในยุคสมัยของโวลเดอมอร์

ในวันที่ 1 สิงหาคม 1997 ภายใต้รัฐมนตรีไพอัส ทิกเนส รัฐมนตรีหุ่นเชิดของลอร์ดโวลเดอมอร์ ได้มีการก่อตั้งคณะกรรมาธิการลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ลขึ้น ภายใต้การควบคุมของโดโลเรส อัมบริดจ์ ซึ่งกล่าวอ้างว่างานวิจัยในกองปริศนา โดยมีเป้าประสงค์หลักในการเล่นงานและจัดการกับพ่อมดแม่มดผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล รวมถึงการกล่าวหาเกี่ยวกับการขโมยไม้กายสิทธิ์จากผู้วิเศษ และอื่น ๆ

“การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ของกองปริศนาเปิดเผยว่า เวทมนตร์นั้นสามารถสืบทอดกันได้ก็ต่อเมื่อผู้วิเศษสืบพันธุ์ ดังนั้น หากลูกมักเกิ้ลคนใดไม่สามารถพิสูจน์ว่าบรรพบุรุษมีอำนาจวิเศษ ก็เป็นไปได้มากว่าอาจได้อำนาจวิเศษมาจากการลักขโมยหรือใช้กำลังบังคับเอามา”

“กระทรวงมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะถอนรากถอนโคนพวกแย่งชิงอำนาจเวทมนตร์เหล่านี้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จึงได้ออกบัตรเชิญผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ลทุกคนให้มาแสดงตนและรับการสัมภาษณ์โดยคณะกรรมาธิการลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้”

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บ.11

เกร็ดน่ารู้

  • ชื่อ “หอพยากรณ์” ปรากฎครั้งแรกในบทที่ 35 หน้า 863
  • ชื่อ “ห้องกาลเวลา” ปรากฎครั้งแรกในบทที่ 35 หน้า 868
  • ชื่อ “ห้องสมอง” ปรากฎครั้งแรกในบทที่ 35 หน้า 870
  • ชื่อ “ห้องมรณะ” ปรากฎครั้งแรกในบทที่ 36 หน้า 894
  • ในภาพยนตร์ซิเรียส แบล็ก เสียชีวิตเนื่องจากโดนคาถาสีแดง ซึ่งอนุมานได้ว่าเป็นคาถาสะกดนิ่ง (สตูเปฟาย) จากเบลลาทริกซ์เข้าที่อก แล้วเซล้มหายเข้าไปในซุ้มประตูโบราณ แต่ในภาพยนตร์เบลลาทริกซ์เสกคำสาปพิฆาตใส่เขาจนล้มหงายเข้าไปในซุ้มประตู (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.880)
  • เนวิลล์ ลองบอตทอม เสียไม้กายสิทธิ์ของเขาที่เคยเป็นของพ่อไปในห้องทำงานห้องหนึ่งในกองปริศนา เพราะแอนโทนิน โดโลฮอฟ หนึ่งในผู้เสพความตายเหยียบไม้กายสิทธิ์ของเขาจนหักเป็นสองท่อน (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.866)
  • การศึกษาเชิงลึกในกองปริศนาได้แสดงให้เห็นย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ. 1672 ว่าพ่อมดแม่มดนั้นเกิดมาเป็นเอง ไม่ได้ถูกสร้างขึ้น ในขณะที่ความสามารถเสกเวทมนตร์ได้อย่าง ‘ผ่าเหล่าผ่ากอ’ จะปรากฎเป็นบางครั้งในเชื้อสายของผู้ไม่มีเวทมนตร์ อย่างดีที่สุด หรือเลวที่สุด ที่พวกเขาจะหวังได้ก็คือผลที่เกิดขึ้นอย่างส่งเดชควบคุมไม่ได้จากไม้กายสิทธิ์ของจริง ไม้กายสิทธิ์เป็นเครื่องมือที่ใช้ส่งผ่านเวทมนตร์ ดังนั้นบางคราวจะยังมีอำนาจตกหล่นเหลือค้างมา ทำให้ไม้อาจส่งประจุพลังออกไปโดยไม่เลือกเวลา (นิทานของบีเดิลยอดกวี น.94)
  • มีความพยายามที่จะยุบกองปริศนา ในยุคสมัยของรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ราโดลฟัส เลสแตรงจ์ (Pottermore)
  • การศึกษาในกองปริศนาได้พิสูจน์ชัดแล้วว่าสถานะ “เลือดบริสุทธิ์” นั้นเป็นเพียงสิ่งสมมติ ไม่เป็นความจริง (Pottermore)

อ้างอิง

  • เนื้อหาทั้งหมดอ้างอิงจากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับครบรอบ 20 ปี แฮร์รี่ พอตเตอร์ ของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์เป็นสำคัญ
  • นิทานของบีเดิลยอดกวี โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ปี 2560