เพอร์ซี่ วีสลีย์ (Percy Weasley)

เพอร์ซี่ วีสลีย์ เป็นพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ เป็นลูกชายคนที่สามของมอลลี่และอาเธอร์ วีสลีย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองการขนส่งวิเศษประจำกระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ (อ้างอิง Pottermore)

คุณลักษณะของเพอร์ซี่ วีสลีย์

เพอร์ซี่เป็นผู้ชายผมแดง หน้าตกกระ ที่สวมแว่นตากรอบเขาสัตว์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.8) ในปี 2014 มีการรายงานข่าวโดยริต้าว่าผมที่เคยแดงของเขาเริ่มกลายเป็นสีเทาในวัย 38 เริ่มหัวล้าน และดูแก่ตัวลงด้วย (อ้างอิง Pottermore)

เพอร์ซี่จัดได้ว่าเป็นคนจู้จี้ เจ้าระเบียบ คาดหวังให้คนรอบตัวเป็นอย่างที่ตนเองวางหรือคิดไว้ มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยานในเส้นทางของตนเองอย่างชัดเจน และขี้โม้อยู่ไม่น้อย สังเกตได้จากการบอกคนในบ้านอยู่บ่อย ๆ ที่เขาได้รับตำแหน่งพรีเฟ็ค ซึ่งเฟร็ดรู้สึกว่าเขาแปลกไปไม่คุยโม้เรื่องที่เขาได้ ว.พ.ร.ส. 12 ตัว อย่างที่เขาควรจะทำ (ห้องแห่งความลับ บ.4)

เขาเป็นคนเอาจริงเอาจังกับหน้าที่และบทบาทที่เขาได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง ซึ่งจุดประสงค์หลักใหญ่ก็คือความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเขา ทั้งในบทบาทพรีเฟ็ค ประธานนักเรียน และตำแหน่งงานของเขาในกระทรวงเวทมนตร์ และให้ความสำคัญหมดใจกับการรักษากฎระเบียบอย่างเข้มงวด (ถ้วยอัคนี บ.7)

“ผมบอกคุณเคร้าช์ว่าจะเขียนเสร็จภายในวันอังคาร นั่นเร็วกว่าที่เขาคิดไว้นิดหน่อยครับ แต่ผมชอบทำอะไรให้เสร็จเร็วกว่ากำหนด ผมคิดว่าคุณเคร้าช์จะดีใจมากถ้าผมทำเสร็จทันเวลา”

– เพอร์ซี่ วีสลีย์ (ถ้วยอัคนี บ.5 น.67)

สิ่งที่เป็นข้อเสียหลักของเพอร์ซี่ก็คือความเชื่อมั่นที่เขามีให้กับกระทรวงเวทมนตร์ตลอดหลายปีตั้งแต่ก่อนเขาจะเข้าทำงานที่นั่น และแน่นอนว่าในตอนท้ายเขาก็เข้าใจแล้วว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์ที่ดีไม่ใช่คนที่คล้อยตามหรือเชื่อทุกอย่างจากกระทรวงเวทมนตร์

ประวัติของเพอร์ซี่

เพอร์ซี่ วีสลีย์ เป็นลูกชายคนที่สามของมอลลี่และอาเธอร์ วีสลีย์ จากลูก ๆ ทั้งหมด 7 คน (บิล ชาลี เพอร์ซี่ เฟร็ด จอร์จ รอน และจินนี่ ตามลำดับ) เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 1976 (อ้างอิง JKRowling.com) เขามีชื่อเต็มว่า เพอร์ซี่ อิกเนเชียส วีสลีย์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.8) ซึ่งชื่อกลางของเขาตั้งตามลุงทวดที่ชื่อว่า อิกเนเชียส เพรอเว็ต

ชีวิตที่ฮอกวอตส์

เพอร์ซี่เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ในปี 1987 โดยได้รับการคัดสรรเข้าสังกัดบ้านกริฟฟินดอร์ และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับโอลิเวอร์ วู้ด ในช่วงแรกที่เข้าเรียนฮอกวอตส์เขามีสแคบเบอรส์ (ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์) เป็นสัตว์เลี้ยงประจำตัว

ปี 5 (1991-2)

เขาได้รับตำแหน่งพรีเฟ็คบ้านกริฟฟินดอร์ในปี 1991 เลยได้สัตว์เลี้ยงตัวใหม่เป็นนกฮูกสายพันธุ์ Screech Owl ตัวเล็กที่มีกระจุกขนคล้ายหูตั้งของแมว (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.5) ที่เขาตั้งชื่อมันว่าเฮอร์มีส รวมถึงเสื้อคลุมนักเรียนตัวใหม่จากพ่อแม่ และส่งต่อสแคบเบอรส์ให้เป็นสัตว์เลี้ยงของรอนที่พึ่งเข้าปีหนึ่งแทน (ศิลาอาถรรพ์ บ.6)

ในการสอบ ว.พ.ร.ส เขาทำคะแนนได้ถึงสิบสองตัว เท่ากับบิล วีสลีย์ พี่ชายคนโตของเขา (ห้องแห่งความลับ บ.4)

เพอร์ซี่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองและหมกมุ่นอยู่กับแผนการที่เขาจะเข้าทำงานในกระทรวงเวทมนตร์ให้ได้ตามเป้าหมายในอนาคตของเขา ช่วงที่แฮร์รี่ไปอยู่กับครอบครัววีสลีย์ที่บ้านโพรงกระต่าย เขาเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง

ปี 6 (1992-3)

เพอร์ซี่กำลังคบหากับ เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ พรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอ ซึ่งในวันที่ 8 พฤษภาคม 1993 แฟนสาวของเพอร์ซี่ก็ถูกบาซิลิสก์เล่นงานระหว่างที่เธอและเฮอร์ไมโอนี่กำลังช่วยกันตามรอยบาซิลิสก์ด้วยกระจกเงา (ห้องแห่งความลับ บ.14, 16)

ปี 7 (1993-4)

ตอนที่แฮร์รี่เจอกับเพอร์ซี่ที่ตรอกไดแอกอน เขาพยายามกลั้นหัวเราะกับท่าทีและคำพูดคำจาของเพอร์ซี่ ที่กำลังฝึกเพื่อสัมภาษณ์หรือพูดคุยกับรัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าที่ในกระทรวงเวทมนตร์ เพื่อเข้าทำงานในกระทรวง (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.4)

“แฮร์รี่ ยินดีที่ได้พบ”

“หวัดดี เพอร์ซี่” แฮร์รี่พยายามกลั้นหัวเราะ

“หวังว่าคงสบายดีนะ” เพอร์ซี่วางท่าโก้ พลางเขย่ามือเขา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแนะนำตัวกับท่านนายกเทศมนตรีก็ไม่ปาน”

– นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.4

ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานนักเรียนคนที่สองของครอบครัววีสลีย์ (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.4) และจบการศึกษาในปี 1994 ด้วยคะแนนสอบ ส.พ.บ.ส. สูงสุดในรุ่น (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.22)

“ประธานนักเรียนคนที่สองของครอบครัว!” นางวีสลีย์ยิ้มหน้าบานด้วยความภูมิใจ

– มอลลี่ วีสลีย์ (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.4)

หลังจบการศึกษา

เข้าทำงานที่กระทรวงเวทมนตร์

หลังจบการศึกษาที่ฮอกวอตส์ เพอร์ซี่ก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางความฝันของตนเองด้วยการเข้าทำงานในกระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ ในกองความร่วมมือด้านเวทมนตร์ระหว่างประเทศ (ถ้วยอัคนี บ.5) ที่บาร์ตี้ เคร้าช์เป็นหัวหน้ากอง ซึ่งหัวหน้าของเขาเรียกเพอร์ซี่ว่า “เวเทอร์บี” แทนที่จะเรียกชื่อที่ถูกต้อง (ถ้วยอัคนี บ.7)

“ที่กองความร่วมมือด้านเวทมนตร์ระหว่างประเทศของเราก็มีงานล้นมือแล้วโดยไม่ต้องออกไปช่วยตามหาเจ้าหน้าที่ของกองอื่น พ่อก็รู้นี่ครับว่าหลังเวิลด์คัพเราจะมีงานใหญ่ที่ต้องเตรียมการกันอีก พ่อรู้ว่าผมพูดถึงงานไหนใช่ไหมครับ งานลับสุดยอด

แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี บ.5

ในขณะทำงานที่กระทรวง เพอร์ซี่พยายามที่จะสร้างคอนเนคชั่นและความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานในกระทรวงอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับคนใหญ่คนโต เห็นได้จากความเร่งรีบที่อยากจะสร้างความประทับใจแก่ลูโด แบ็กแมน ในเวิลด์คัพ ที่เขาเองไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีบริหารของลูโดเลย (ถ้วยอัคนี บ.7) เขาชื่นชมบาร์ตี้ เคร้าช์ อย่างออกหน้าออกตาอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นเหมือนแฟนตัวยงของหัวหน้าเขาเลยทีเดียว (ถ้วยอัคนี บ.7)

แฮร์รี่เข้าใจทันทีว่าทำไมเพอร์ซี่จึงเทิดทูนบูชาชายผู้นี้ เพอร์ซี่ให้ความสำคัญหมดใจกับการรักษากฎระเบียบอย่างเข้มงวด และนายเคร้าช์ก็ปฏิบัติตามกฏว่าด้วยการแต่งตัวเป็นมักเกิ้ลอย่างไม่ผิดเพี้ยนจนอาจบอกใครต่อใครได้สบาย ๆ ว่าเขาเป็นผู้จัดการธนาคาร แฮร์รี่สงสัยว่ากระทั่งลุงเวอร์นอนก็คงดูไม่ออกว่าที่แท้แล้วนายเคร้าช์เป็นอะไร

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี บ.7 น.95

ผู้ช่วยส่วนตัวของคุณเคร้าช์

หกเดือนหลังจากเข้าทำงานที่กระทรวง ในวันคริสต์มาส ปี 1994 เพอร์ซี่ วีสลีย์ บอกกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ว่าเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณเคร้าช์ และทำหน้าที่แทนเขาในการประลองเวทไตรภาคี นับตั้งแต่คืนงานเลี้ยงเต้นรำเป็นต้นมา เนื่องจากเข้าใจว่าคุณเคร้าช์มีอาการป่วยหนักตั้งแต่งานควิดดิชเวิลด์คัพ (ถ้วยอัคนี บ.23) ซึ่งความเป็นจริงแล้วคุณเคร้าช์ถูกลูกชายสะกดใจและกักขังเขาไว้ในบ้านของตนเอง และใช้จดหมายในการติดต่อสั่งงานกับเพอร์ซี่เป็นหลัก

ระหว่างเป็นกรรมการแทนคุณเคร้าช์ ในนาทีที่เขาเห็นรอนกับแฮร์รี่กลับขึ้นมาจากทะเลสาบได้สำเร็จจากภารกิจที่สอง จิตวิญญาณของความเป็นพี่ชายก็วิ่งลุยน้ำมาช่วยดึงรอนขึ้นฝั่ง (ถ้วยอัคนี บ.26)

หลังการเสียชีวิตของคุณเคร้าช์ ด้วยฝีมือของลูกชายตัวเอง แฮร์รี่คิดว่าเพอร์ซี่รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่กับงานชิ้นแรกที่กระทรวง เพราะถือว่าตัวเองเผลอเรอใหญ่หลวงที่ไม่สังเกตเห็นเอาเสียเลยว่าหัวหน้าตัวเองถูกคำสาปสะกดใจควบคุมไว้ แน่นอนว่าเรื่องนี้คนในกระทรวงไม่มีใครอยากเชื่อ ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม เป็นเหตุให้เพอร์ซี่ถูกที่ทำงานไต่สวนชุดใหญ่กับเรื่องนี้ เพราะใกล้ชิดกับคุณเคร้าช์ที่สุด (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.4)

ก้าวกระโดดที่แตกหัก

ภายหลังช่วงปี 1995 อาทิตย์แรกหลังปิดเทอม เพอร์ซี่กลับมาบ้านแล้วบอกทุกคนว่าเขาได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งเพอร์ซี่ได้ขึ้นเป็นรองผู้ช่วยรัฐมนตรีคอร์นีเลียส ฟัดจ์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.4) ทั้งยังได้ตำแหน่งชั่วคราวเป็นเสมียนศาลในศาลสูงวิเซ็นกาม็อต ระหว่างการพิจารณาคดีของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่องการใช้เวทมนตร์เมื่อยังไม่บรรลุนิติภาวะและกฎหมายปกปิดความลับนานาชาติ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 1995 (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.8)

“พ่อคำนวณว่าฟัดจ์ต้องการให้เพอร์ซี่อยู่ในออฟฟิศของเขาเพียงเพื่อจะใช้เพอร์ซี่เป็นสายลับสืบเรื่องครอบครัว — และเรื่องดัมเบิลดอร์ด้วย”

– เฟร็ด วีสลีย์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.4 น.88)

การเลื่อนขั้นของเพอร์ซี่ที่รวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง ทำให้เขาและพ่อมีปากเสียงใหญ่โตในเรื่องนี้ เพอร์ซี่บอกกับพ่อว่าเขาต้องดิ้นรนอย่างยิ่งเพื่อต่อสู้กับชื่อเสียงเสีย ๆ ของพ่อ นับตั้งแต่นาทีที่เขาเข้าทำงานที่กระทรวง มองว่าอาเธอร์นั้นไม่ทะเยอทะยาน และเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวไม่มีอันจะกินจนถึงทุกวันนี้ ทั้งยังมองว่าพ่อตัวเองปัญญาอ่อนที่วิ่งตามดัมเบิลดอร์ มองว่าพ่อกำลังล่มจมไปพร้อมกับเขา ซึ่งเพอร์ซี่รู้ดีว่าตัวเองต้องภักดีกับใคร คำตอบก็คือจงรักภักดีต่อกระทรวง และนั่นทำให้เกิดการแตกหักกับครอบครัว เพราะเขาประกาศแก่คนในบ้านว่าเขาจะทำให้คนอื่นไม่รู้ว่าเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวนี้ และย้ายตัวเองออกไปอยู่ลอนดอน แม่ของเขาพยายามไปหาแต่ถูกเขาปิดประตูใส่หน้า (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.4)

เพอร์ซี่เชื่อเจ้านายของเขาและเชื่อสิ่งที่เดลี่พรอเฟ็ตโจมตีหรือสร้างภาพให้ดัมเบิลดอร์กับแฮร์รี่เป็นตัวตลกลวงโลกอย่างจริงจัง และมองว่าหลักฐานเดียวที่แฮร์รี่บอกว่าเห็นโวลเดอมอร์กลับคืนชีพมาหลังการประลองเวทไตรภาคีภารกิจที่สามนั้นเป็นเพียงหลักฐานเดียวซึ่งเชื่อถือไม่ได้ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.4)

“พวกนั้นต้องการเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนที่ไม่มีใครเชื่อถือ ฟัดจ์อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน พนันเอาอะไรก็ได้ พวกเขาต้องการให้พ่อมดแม่มดตามถนนคิดว่าเธอน่ะเป็นแค่เด็กโง่ ๆ ที่เป็นตัวตลก ที่เล่าเรื่องเหลือเชื่อน่าขันต่าง ๆ เพราะชอบมีชื่อเสียง แล้วก็อยากมีชื่อเสียงเรื่อย ๆ”

– เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.4)

ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน 1995 เพอร์ซี่ตัดสินใจส่งจดหมายถึงรอน ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่แสดงออกถึงการพยายามให้รอนอยู่ห่างจากแฮร์รี่ และเพื่อปกป้องน้องชายของตนเองจากทิศทางที่อาจนำไปสู่ความผิดพลาดของชีวิต รวมถึงการอยู่ข้างหรือเป็นมิตรกับแฮร์รี่ ความภักดีที่รอนควรมอบให้คือกระทรวงไม่ใช่ดัมเบิลดอร์ ซึ่งแสดงออกถึงมุมมองของเพอร์ซี่ได้อย่างชัดเจน (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.14)

“เขามัน–” รอนพูดตะกุกตะกัก ฉีกจดหมายของเพอร์ซี่ออกเป็นสองส่วน “ยอดยี้–” เขาฉีกออกเป็นสี่ส่วน “งี่เง่า–” เขาฉีกจดหมายเป็นแปดส่วน “ที่สุดในโลก” เขาโยนเศษกระดาษลงไปในกองไฟ

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ บ.14

แท้จริงแล้วบทบาทในตำแหน่งของรองผู้ช่วยรัฐมนตรีดูเหมือนจะเป็นเพียงชื่อตำแหน่งที่สวนทางกับหน้าที่ที่เขาได้รับ เพราะหน้าที่ส่วนใหญ่ของเพอร์ซี่คือการถือปากกาขนนกและบันทึกข้อมูลคำพูดทุกอย่างของฟัดจ์หรือใครก็ตามที่ต้องจดไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และทำตามคำสั่งทุกอย่างของฟัดจ์อย่างสัตย์ซื่อและรวดเร็วทันใจ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.27)

เพอร์ซี่ วีสลีย์ ควบคุมตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์ และโช แชง

เพอร์ซี่อยู่ร่วมในเหตุการณ์จับกุมตัวอัลบัส ดัมเบิลดอร์ หลังการรับผิดทุกประการแทนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในการจัดตั้งกองทัพดัมเบิลดอร์ เขามีหน้าที่ในการจดบันทึกคำสารภาพของดัมเบิลดอร์และนำข้อมูลส่งให้เดลี่พรอเฟ็ต (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.27)

หลังจากที่เพอร์ซี่พบว่าข้อมูลที่เขารับรู้จากกระทรวงเวทมนตร์ทั้งเรื่องการกลับมาของโวลเดอมอร์ หรือการหวังจะโค่นล้มอำนาจรัฐมนตรีคอร์นีเลียส ฟัดจ์ของดัมเบิลดอร์เป็นสิ่งที่เขาเข้าใจผิด และครอบครัวเขาถูกต้องเสมอมา เพอร์ซี่ก็ยากจะยอมรับว่าตัวเองคิดผิด แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ยอมรับความผิดของตัวเอง และมาอยู่เคียงข้างครอบครัวในการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์

“คนส่วนมากมักเห็นว่าการให้อภัยคนที่ผิด นั้นง่ายกว่าการให้อภัยคนที่ถูก”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เจ้าชายเลือดผสม บ.5)

เมื่อคอร์นีเลียส ฟัดจ์ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ หลังการกลับมาของโวลเดอมอร์ เพอร์ซี่ก็รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยให้กับรูฟัส สคริมเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์คนใหม่

25 ธันวาคม 1996 เพอร์ซี่ วีสลีย์ เดินทางกลับมาบ้านโพรงกระต่ายกับรูฟัส สคริมเจอร์ โดยมีเป้าประสงค์หลักเพื่อหาโอกาสให้รัฐมนตรีคนใหม่ได้พูดคุยกับแฮร์รี่เป็นการพิเศษ ซึ่ง ณ เวลานั้น เพอร์ซี่ยอมรับแล้วว่าพ่อแม่ของเขาถูก แต่ตัวเองผิด และยังไม่สามารถให้อภัยตนเองหรือคนในครอบครัวได้ด้วยอัตตาของตน ขณะที่รูฟัสตั้งใจมาเพื่อชวนแฮร์รี่ไปร่วมมือกับกระทรวงในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับทางการ (เจ้าชายเลือดผสม บ.16)

เพอร์ซี่ไม่ได้แสดงอาการว่าอยากทักทายสมาชิกที่เหลือในครอบครัวเลย เขายืนตัวตรงเหมือนเหล็กเขี่ยไฟ ท่าทางเจื่อน ๆ และจ้องมองข้ามหัวทุก ๆ คน นายวีสลีย์ เฟร็ด และจอร์จต่างจ้องดูเขา สีหน้าแข็งกระด้าง

– เจ้าชายเลือดผสม บ.16

การต่อสู้ กลับใจ และครอบครัว

เพอร์ซี่ กับครอบครัวของเขา

2 พฤษภาคม 1998 ในระหว่างการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์ เพอร์ซี่ได้เดินทางผ่านช่องทางลับที่เป็นอุโมงค์จากร้านหัวหมูมาร่วมการต่อสู้เคียงข้างครอบครัวเขา

“ฉันมาสายไปไหม เริ่มต้นกันหรือยัง ฉันเพิ่งรู้ แล้วฉันก็–ฉัน–” เพอร์ซี่ละล่ำละลักแล้วก็เงียบกริบ

“ฉันเป็นไอ้งี่เง่า!” เพอร์ซี่คำราม “ฉันเป็นปัญญาอ่อน ฉันมันไอ้ขี้เท่อจอมอวด ฉันมัน–มัน–“

“คนปัญญานิ่มที่กระหายอำนาจ ละทิ้งครอบครัว หลงรักกระทรวง” เฟร็ดพูด

เพอร์ซี่กลืนน้ำลาย

“ใช่ ฉันเป็นแบบนั้น!”

“ผมขอโทษครับ พ่อ”

“เป็นไงมาไงถึงได้สติขึ้นมาล่ะ เพิร์ซ” จอร์จถาม

“ได้สติมานานแล้วล่ะ” เพอร์ซี่ตอบ พลางใช้มุมเสื้อคลุมเช็ดตาใต้แว่น “แต่ฉันมัวแต่หาทางออกอยู่ มันไม่ใช่ง่าย ๆ เลยรู้ไหม กระทรวงจับคนทรยศขังตลอด ทีนี้ฉันติดต่อกับอาเบอร์ฟอร์ธได้ แล้วเมื่อสิบนาทีมานี้เอง เขาเพิ่งบอกว่าฮอกวอตส์จะสู้แล้ว ฉันก็เลยรีบมา”

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บ.30

หลังจากที่รูฟัส สคริมเจอร์ถูกสังหาร เพอร์ซี่ยังคงทำงานต่อในกระทรวงภายใต้การบริหารของรัฐมนตรีหุ่นเชิด ไพอัส ทิกเนส และขอลาออกกับรัฐมนตรีในระหว่างการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์ วันที่ 2 พฤษภาคม 1998

“สวัสดี ท่านรัฐมนตรี!” เพอร์ซี่ตะเบ็งเสียง ส่งคำแช่งไปถูกทิกเนสอย่างจัง เขาทิ้งไม้กายสิทธิ์และตะกุยตะกายที่ด้านหน้าเสื้อคลุม ท่าทางทุรนทุรายอย่างหนัก “ผมบอกหรือเปล่าว่าผมลาออกแล้ว”

“นายพูดตลกหรือนี่ เพิร์ซ!” เฟร็ดตะโกน “นายพูดตลกจริง ๆ ด้วย เพิร์ซ… ฉันไม่เคยได้ยินนายพูดตลกเลยตั้งแต่นายเป็น–“

– เครื่องรางยมทูต บ.31

เพอร์ซี่เป็นคนสุดท้ายที่เฟร็ดได้พูดคุยด้วยก่อนเสียชีวิต (เครื่องรางยมทูต บ.31 น.604)

ในปี ค.ศ. 2014 มีการรายงานข่าวโดยริต้า สกีตเตอร์ ว่าเขาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองการขนส่งวิเศษ ภายใต้รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ (อ้างอิง Pottermore)

หลังสิ้นสุดการต่อสู้

เพอร์ซี่ วีสลีย์ แต่งงานกับผู้หญิงชื่อออเดรย์ (Audrey) ทั้งคู่มีลูกสาวสองคนชื่อ มอลลี่ และลูซี่ (อ้างอิง J. K. Rowling – A Year In The Life (30 ธันวาคม 2007))

1 กันยายน 2017 เพอร์ซี่ร่วมส่งหลาน ๆ ของเขาไปฮอกวอตส์ (เครื่องรางยมทูต บทส่งท้าย)

เกร็ดน่ารู้

  • เพอร์ซี่ วีสลีย์ ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ บทที่ 6
  • ในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพอร์ซี่ วีสลีย์ รับบทโดย Chris Rankin
  • ในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพอร์ซี่ วีสลีย์ ไม่ได้ใส่แว่นตากรอบเขาสัตว์อย่างในหนังสือ