โดย ผู้สื่อข่าวพอตเตอร์มอร์
วันที่ 7 มกราคม 2016
มอลลี่ โซลวิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้อง ทักทายฉันอย่างอ่อนหวาน และวางกระดาษแผ่นใหญ่ลงบนโต๊ะข้างหน้าพวกเรา
เธอหายใจเข้าและยิ้มให้กับตัวเอง แล้วเอามือลูบปลายหัวมุมกระดาษข้างขวาให้เรียบ หัวใจของฉันเต้นระรัวเมื่อฉันตระหนักได้ว่าสิ่งที่พวกเรากำลังดูอยู่คืออะไร มันคือพวกไม้กายสิทธิ์ค่ะ
พวกเรากำลังดูไม้กายสิทธิ์ในยุค 1920 กัน ไม่ว่าจะเป็นไม้กายสิทธิ์ของนิวท์ ไม้กายสิทธิ์ของทีน่า ไม้กายสิทธิ์ของควีนนี่่ หรือไม้กายสิทธิ์ที่คอลิน ฟาร์เรลใช้เพื่อฝึกซ้อมโบกสะบัดเวลาอยู่ในบทบาทตัวละครของเขา เกรฟส์ก็ตามที ทุกไม้อยู่บนกระดาษหน้านี้ทั้งหมด ภาพประกอบที่ทั้งสวยและลงในรายละเอียดของแต่ละไม้กายสิทธิ์ของตัวละครหลักในโลกเวทมนตร์ในสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่
พวกมันช่างวิจิตรงดงามเสียจนฉันเผลอไม่ได้ที่จะลูบไล้ไปบนกระดาษขณะที่พวกเราพูดคุยกัน อย่างกับพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้มันเป็นของสามมิติขึ้นมา
มอลลี่เป็นนักออกแบบคอนเซพท์มือใหม่สำหรับภาพยนตร์นี้ งานแรกของเธอที่ได้จากนักออกแบบฝ่ายการสร้าง สจ๊วต เคร็กก็คือให้ดึงรายละเอียดต่าง ๆ จากบทภาพยนตร์ของเจ. เค. โรว์ลิ่งออกมา แล้ววาดภาพร่างตัวเลือกไม้กายสิทธิ์ของตัวละครหลัก มันเป็นโครงการในฝันสุด ๆ อย่างแท้จริง เธอช่างเป็นโอลลิแวนเดอร์เสียจริงเลย ถ้าเพียงแต่โอลลิแวนเดอร์เป็นผู้หญิงในศตวรรษที่ 21 ที่ใช้โฟโต้ช้อปน่านะ
‘ฉันรู้มาจากหนังสือแฮร์รี่ว่า พ่อมดมีความสัมพันธ์เกี่ยวดองกับไม้กายสิทธิ์ด้วย มันเลือกพวกเขา’ เธอพูด ‘มันออกจะเหมือนผู้คนกับหมาของพวกเขาอยู่หน่อยนะ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าคุณสามารถเห็นร่องรอยของไม้กายสิทธิ์ได้ในตัวพ่อมด และก็ร่องรอยของตัวพ่อมดในไม้กายสิทธิ์ เพราะงั้นพวกเราต้องจินตนาการถึงความรู้สึกและวัสดุของไม้กายสิทธิ์ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนที่ดีกันกับตัวละคร’
‘ไม้นี้ต้องเป็นของนิวท์แน่เลย’ ฉันพูดแล้วชี้ไปที่ไม้กายสิทธิ์ที่ทำด้วยไม้ที่ดูเรียบง่ายเรียบร้อย
‘พวกเราต้องการให้มันเกี่ยวโยงในทางใดทางหนึ่งกับอาณาจักรสัตว์ค่ะ’ เธอพูดกับฉัน ‘แต่พวกเราคิดกันว่ามันออกจะไม่เหมาะสมที่จะให้อะไรกับเขาในแบบที่อาจให้ความรู้สึกเหมือนได้ถ้วยรางวัลน่ะค่ะ พวกเราไม่คิดว่าเขาจะสนใจอะไรแบบนั้นหรอก ชิ้นส่วนหลักของมันก็เลยเป็นไม้ค่ะ’
‘แล้วไม้นี้ของควีนนี่่เหรอ’ ฉันถามแล้วเอานิ้วจิ้มไปที่โต๊ะอย่างเร็ว ราวกับว่าฉันเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการเกมโชว์ ‘เดาไม้กายสิทธิ์’ ที่ต้องเล่นตอบคำถามทันที ‘นั่นต้องเป็นไม้อะไรที่ใกล้เคียงที่สุดกับไม้ที่ดูเซ็กซี่ เท่าที่ฉันเคยเห็นมาน่านะ และมันต้องเป็นได้แค่ของควีนนี่่เท่านั้นแน่’
‘ใช่ค่ะ นั่นของควีนนี่่’ มอลลี่พูด ‘อลิสัน ซูโดลมีอิทธิพลนิดหน่อยกับไม้กายสิทธิ์ของเธอ เพราะว่าเธอชอบศิลปะแบบอาร์ตเดโค่ (Art Deco) พวกเราเลยใส่รสนิยมของเธอลงไปด้วย และมันก็ค่อนข้างช่วยเราให้เอาช่วงเวลา ยุคสมัยเข้าไปใส่ในการออกแบบได้ค่ะ’
‘ในทางตรงกันข้าม ไม้กายสิทธิ์ของทีน่าจะดูเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ดูดีแบบไม่โจ่งแจ้งมากกว่า เดวิด เยทส์ไม่อยากให้มันดูเตะตามากเกินไปค่ะ เพราะนั่นจะดูไม่เข้ากับทีน่า พวกเขาใช้ไม้วาทยากรรุ่นเก่าสำหรับเป็นแบบพื้นฐานของไม้กายสิทธิ์ของเกรฟส์ค่ะ’
‘คุณได้ถือพวกของจริงไหม กับมือของคุณจริง ๆ น่ะ’ ฉันถาม มันจะต้องน่าเหลือเชื่อมากสำหรับมอลลี่ที่เป็นคนเริ่มต้นขั้นตอนในการจัดแนวคิดของสจ๊วต เคร็กลงกระดาษ แล้วก็นำมันไปให้ผู้กำกับ เดวิด เยทส์ แล้วกระจายมันไปทั่วแผนกศิลป์ ส่งมันไปเป็นพร็อพ และได้มันกลับมาในรูปร่างที่จับต้องได้
‘มันมหัศจรรย์มากเลยค่ะ ตอนที่ฉันเห็นพวกมันครั้งแรก ฉันประหลาดใจกับรายละเอียดเลย ตอนคุณกำลังออกแบบ คุณไม่ได้มีเวลาที่ไม่รู้จบเพื่อที่จะพินิจดูทุกองค์ประกอบที่จะทำมันหรอกนะ ดังนั้นพอท้ายที่สุดเมื่อคุณได้สัมผัสมัน คุณก็จะแบบว่า ‘โห พวกคุณ คุณทำมันออกมาดีจัง’ มันน่าอัศจรรย์ที่ได้เห็นค่ะ’
มอลลี่เริ่มสับเปลี่ยนกระดาษแผ่นใหญ่ใบอื่น ๆ ของเธอ เธอยังมีอะไรอีกมากที่จะแสดงให้ฉันดู ในเวลาที่เหมาะที่ควร…