“เมื่อมีการลงนามในกฎหมายปกปิดความลับนานาชาติเมื่อ ค.ศ.1689 ผู้วิเศษทั้งหลายก็หลบซ่อนตัวตลอดกาล พวกเขาตั้งกลุ่มเล็กๆ ของตัวเองขึ้นในชุมชนต่างๆ ซึ่งก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำอย่างนั้น หมู่บ้านเล็กๆ และชุมชนน้อยๆ หลายแห่งกลายเป็นแหล่งรวมครอบครัวผู้วิเศษ ซึ่งจับกลุ่มกันเพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองดูแลกัน หมู่บ้านหลายแห่ง เช่น ทินเวิร์ทในคอร์นวอลล์ อัปเพอร์แฟล็กลีย์ในยอร์กเชอร์ และอัตเทอรี่ เซนต์ แคทช์โพล บนชายฝั่งตอนใต้ของอังกฤษ เป็นแห่งที่อยู่อันโด่งดังของกลุ่มครอบครัวผู้วิเศษ ทุกคนดำรงชีวิตท่ามกลางมักเกิ้ลที่มีขันติธรรม หรือไม่ก็ถูกเสกด้วยคาถางงงันในบางครั้ง ในบรรดาสถานที่เหล่านี้ แห่งที่มีชื่อเสียงที่สุดน่าจะเป็นก็อดดริกส์โฮลโล่ หมู่บ้านในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ บ้านเกิดของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ และที่ซึ่งโบว์แมน ไรต์ …
“ยินดีต้อนรับ สู่ตรอกไดแอกอน” — รูเบอัส แฮกริด ตรอกไดแอกอน (Diagon Alley) เป็นสถานที่สำหรับจับจ่ายใช้สอยของพ่อมดแม่มด การไปยังตรอกไดแอกอน ต้องเข้าลอนดอน ไปยังร้านหม้อใหญ่รั่วที่ตั้งอยู่บนถนนชาริงครอส แล้วเข้าไปหลังร้าน จำให้ขึ้นใจว่า แนวตั้งสาม แนวนอนสอง จากนั้นมองหาถังขยะ เหนือถังขยะขึ้นไปนับอิฐสามก้อน แล้วขวาอีกสองก้อน แล้วก็เคาะลงไปเลยตรงนั้น 3 ครั้ง มีอะไรเกิดขึ้นในตรอกไดแอกอนบ้าง ปี 1991 แฮกริดพาแฮร์รี่ พอตเตอร์ มายังตรอกไดแอกอน เพื่อซื้อสัมภาระสำหรับการเข้าเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ …
ตำนานของเครื่องรางยมทูตของบีเดิลยอดกวี จากนิทานของบีเดิลยอดกวี (The Tales of Beedle the Bard) กลับกลายเป็นปริศนาที่มีอยู่จริงของเครื่องรางยมทูต สามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่า “ผู้ใดที่ครอบครองมัน จะได้เป็นนายของยมทูต” กล่าวตามตำนานคืออยู่เหนือยมทูต สามารถกำหนดและหลบเลี่ยงการตายของตนเองได้ นิทานสามพี่น้องกลายเป็นความจริงเมื่อหลักฐานถูกพิสูจน์ว่า ทั้งสามเป็นพ่อมดที่มีชีวิตอยู่จริง นั่นคือ สามพี่น้องตระกูลเพฟเวอเรลล์ ที่อาศัยอยู่ในก็อดดริกส์โฮลโล่ ซึ่งนิทานทำให้เชื่อกันแบบผิด ๆ ว่าพวกเขาได้รับเครื่องรางยมทูตกันคนละหนึ่งชิ้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่ นิทานของบีเดิลยอดกวี กล่าวไว้ถึงการครอบครองสิ่งของต่างๆ 3 สิ่งของพี่น้องทั้งสามคน …
กองทัพดัมเบิลดอร์ ก่อตั้งโดยแนวคิดของ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ว่าอยากให้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด โครงการนี้ก่อตั้งใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟีนิกซ์ ( เล่มที่ 5 ) เพื่อให้สมาชิกในกลุ่มได้เรียนรู้เกี่ยวกับ วิชา ป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ที่ไม่เคยได้เรียนอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่นักในปีที่ 5 นี้! กองทัพดัมเบิลดอร์ ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1995 …
สำหรับนักเรียนปีหนึ่งที่เข้ามาเรียนโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ จะต้องเรียนเนื้อหาทั้งหมด 7 วิชา คือ แปลงร่าง, คาถา, ปรุงยา, ประวัติศาสตร์เวทมนตร์, ป้องกันตัวจากศาสตร์มืด, ดาราศาสตร์, สมุนไพรศาสตร์ และการบิน ซึ่งเป็นวิชาบังคบที่ทุกคนต้องเรียน เมื่อจบปีสองของฮอกวอตส์ นักเรียนสามารถเลือกวิชาเพื่อลงเรียนเพิ่มได้ โดยขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 2 วิชา จากรายชื่อวิชาต่อไปนี้ ตัวเลขมหัศจรรย์, มักเกิ้ลศึกษา, พยากรณ์ศาสตร์, อักษรรูน และดูแลสัตว์วิเศษ ในบางครั้งจะมีลิสต์วิชาพิเศษเพิ่มเข้ามาในการลงเรียนของปีสอง เช่น วิชาการเล่นแร่แปรธาตุ ที่มักถูกเสนอชื่อ …
A Alarte Ascendare (uh-LAR-tay uh-SEN-dar-uh) (อะลาร์เต แอสเซ็นดารี) คาถาที่เสกให้สิ่งที่ต้องการพุ่งขึ้นไปในอากาศ เป็นคาถาที่ล็อกฮาร์ตใช้ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ เพื่อทำการกำราบงูที่เดรโกเสกขึ้น แต่มันไม่ได้ผลทำให้งู พุ่งขึ้นไปบนอากาศและตกลงมา พร้อมกับความกราดเกรี้ยวที่มากขึ้น Arania Exumai (ah-run-ee-a eggs-oo-may) (อะรันเนีย เอ็กซูมี) คาถาขับไล่แมงมุม ปรากฏในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ (ภาค 2) ในฉากป่าต้องห้าม …
การหลบหนีกลับไปยังป่าอย่างหวุดหวิด แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ก็กลับมารวมตัวกับรอนอีกครั้งในไม่ช้า เขากลับมาเพื่อช่วยแฮร์รี่ทันเวลาจากหลุมฝังศพที่เต็มไปด้วยน้ำเย็นยะเยือก “มันเป็นช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของรอนจริงๆ” กรินท์ กล่าวว่า “เขาก้าวไปข้างหน้าและกลายเป็นฮีโร่ด้วยความเชื่อในสิ่งที่อยู่ในใจของเขา ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ปรากฏแก่สายตาเบื้องหน้า” การดึงความสนใจของพวกเขากลับมาที่การไล่ล่าฮอร์ครักซ์ มีร่องรอยบางอย่างที่นำมาประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเครื่องหมายประหลาดที่ปรากฏขึ้นมาตลอดเวลา—วงกลมที่อยู่ในสามเหลี่ยมและมีเส้นคร่อมอยู่ตรงกลาง แฮร์รี่คือคนที่จำได้ในตอนแรกว่าพวกเขาเคยเห็นมัน: บนสร้อยที่มีเครื่องประดับซึ่งสวมโดย เซโนฟิเลียส เลิฟกู๊ด พวกเขาทั้งสามได้มุ่งความสนใจไปยังการค้นหาและทำลายฮอร์ครักซ์ แต่ทันใดนั้นความลึกลับใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้นมา พวกเขาไม่รู้ว่าเครื่องหมายที่พวกเขาเห็น จะมีการเชื่อมโยงบางประการกับการค้นหาของพวกเขา แต่มันกลับมีความหมายอย่างยิ่ง ฉะนั้นแฮร์รี่, เฮอร์ไมโอนี่และรอนจึงเตรียมตัวไปที่บ้านของเลิฟกู๊ด สจ๊วต เครก กล่าวว่า บ้านหลังนั้นถูกออกแบบขึ้นตามที่โรว์ลิงบรรยายเอาไว้ในหนังสือ …
ภารกิจของแฮร์รี่แผ่ขยายตัวออกไป จากฮอร์ครักซ์ไปจนถึงวิธีการทำลายพวกมัน ที่การค้นหาดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ดีกว่าการค้นหาจุดกำเนิดของมัน, ก็อดดริกส์โฮลโล่? แต่เฮอร์ไมโอนี่เตือนพวกเขาว่า สถานที่ใดที่มีความหมายบางอย่างต่อแฮร์รี่ อาจเป็นสถานที่ซึ่งเจ้าแห่งศาสตร์มืดคาดคิดว่าเขาจะเดินทางไป “ก็อดดริกส์โฮลโล่เป็นสถานที่เกิดของแฮร์รี่ และเป็นสถานที่พ่อแม่ของเขาถูกฆ่า” เยทส์ กล่าวว่า “และเขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานว่าดัมเบิลดอร์ก็เคยอยู่ที่ที่นั่น ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน มันจึงเป็นหลายเหตุผลรวมกันทำให้เขาไปที่นั่น: โดยยุทธศาสตร์แล้ว เขาคิดว่าอาจมีบางอย่างในที่นั้น สามารถช่วยพวกเขาในภารกิจได้ และด้วยอารมณ์แล้ว, เขาอยากกลับไป” ฉากของหมู่บ้านถูกออกแบบขึ้นโดยสไตล์ทูดอร์ และมีการผูกเรื่องขึ้นที่ Pinewood Studios เครกกล่าวว่า “มันมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยไม้สักครึ่งนึง, …
ในตอนท้าย, แฮร์รี่ก็ได้ครอบครองฮอร์ครักซ์ชิ้นที่สาม แต่การมีตัวตนมีผลลัพธ์ที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้เกี่ยวกับเพื่อนรักทั้งสาม ที่ได้ร่วมแบ่งปันสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันแตกสลายได้…จนตอนนี้ โดยคำจำกัดความแล้ว, ฮอร์ครักซ์คือชิ้นส่วนของวิญญาณอันชั่วร้ายของโวลเดอมอร์ ซึ่งความมีตัวตนของมันจะครอบงำและมีอารมณ์ก้าวร้าวที่รุนแรงขึ้นกับทุกคนที่เข้าใกล้มัน แรดคลิฟฟ์ เปิดเผยว่า “หากใครได้สวมใส่มันเข้าจริงๆ ผลที่จะได้รับตามมาคือพวกเขาจะกลายเป็นคนฉุนเฉียว หวาดระแวง และค่อนข้างน่ากลัว, พูดถึงโดยส่วนใหญ่นะ” ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง เมื่อพ่อมดหนุ่มพยายามทำลายมัน ฮอร์ครักซ์ไม่สะทกสะท้านต่อเวทมนตร์ของพวกเขาเลย “พวกเขาพบว่ามันจะถูกทำลายได้โดยดาบของกริฟฟินดอร์ ซึ่งแน่นอนว่ามันหายไปแล้ว” แรดคลิฟฟ์ กล่าว รอนเหมือนจะอ่อนไหวต่อพลังอำนาจของมันได้เป็นพิเศษ กรินท์ กล่าวว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดมาก เพราะพวกเขาอยู่กันตามลำพังและรอนก็กลุ้มใจเรื่องครอบครัวของเขา …
ทั้งสามมาสู่ถนนชาฟท์สเบอรี่ในใจกลางของโรงละครสัตว์พิคคาดิลลี่อันอึกทึกที่ลอนดอน และในย่านโรงละคร West End theatre ฉากนั้นได้ถ่ายทำในสถานที่จริง ซึ่งวัตสันกล่าวว่า “เหมือนกับความฝันเลย มันเหลือเชื่อที่ได้เห็นการจราจรที่หยุดชะงักตัวบนถนนที่มีการจราจรคับคั่งมากที่สุดในเมืองใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง” แม้ว่าการถ่ายทำภาพยนตร์จะเสร็จสิ้นภายในยามใกล้รุ่ง แฟนๆ หลายร้อยคนหันเหลือบมองนักแสดง “กลุ่มแฟนๆ มีขนาดใหญ่มาก” เฮย์แมน กล่าวว่า “พวกเขาไม่เข้ามาก้าวก่ายและมีอารมณ์ร่วมไปกับมันจริงๆ การถ่ายทำบนสถานที่วุ่นวายจะขาดความท้าทายไปไม่ได้เลย แต่เราก็ได้ช่วงเวลาดีๆ ด้วยเหมือนกัน” เยทส์ เห็นด้วยว่า “จริงๆ แล้วมันน่าประทับใจมาก ที่นั่นมีผู้คนมากมายยืนอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมงในช่วงค่ำคืน มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก” ด้วยการยอมรับผลงานของแรดคลิฟฟ์บนเวทีเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ที่ช่างสังเกต …