เซอร์นิโคลัส เดอ มิมซี่-พอร์พิงตัน (Sir Nicholas de Mimsy-Porpington)

เซอร์นิโคลัส เดอ มิมซี่-พอร์พิงตัน หรือที่เรารู้จักในฐานะ นิกหัวเกือบขาด ผีประจำบ้านกริฟฟินดอร์ของฮอกวอตส์

บุคลิกลักษณะ

ในร่างผี เรารู้จักนิกหัวเกือบขาดในภาพพิมพ์ของพ่อมดที่มีร่างสีมุกโปร่งใส สวมหมวกหรูมีขนนกประดับบนเรือนผมยาวเป็นลอน (ห้องแห่งความลับ บ.8) สวมเสื้อทูนิกชุดเข้ารูป และมีแผงระบายฟู ๆ ตรงคอใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งใช้ประโยชน์ควบสองอย่าง คือดูหรูหราสำหรับงานเลี้ยง และช่วยประคองศีรษะไม่ให้ห้อยตกลงมาเพราะลำคอถูกตัดจนเกือบขาด (ถ้วยอัคนี บ.12)

นิกเป็นผีที่เป็นมิตรและเข้าอกเข้าใจเด็ก เขายินดีเสมอที่จะให้คำแนะนำหรือพูดคุยกับใครก็ตามที่ต้องการจะคุยกับเขาด้วย

ประวัติ

เซอร์นิโคลัส เดอ มิมซี่-พอร์พิงตัน เกิดในช่วงศตวรรษที่ 15 ในครอบครัวชั้นสูง เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์โดยได้รับการคัดสรรเข้าบ้านกริฟฟินดอร์ เซอร์นิโคลัสดูเป็นคนหัวสูงและประสบความสำเร็จในด้านพ่อมดน้อยกว่าที่เขาเชื่อ (Wizarding World)

สาเหตุการตาย

วันหนึ่งขณะที่เซอร์นิโคลัสเดินทอดน่องไปรอบ ๆ ศาลเฮนรี่ที่ 7 ด้วยความเบาปัญญา เขาคิดจะช่วยเสริมความงามให้เลดี้กรีฟ บาทบริจาริกา (หญิงที่มีหน้าที่ปฏิบัติรับใช้พระเจ้าแผ่นดิน) ด้วยเวทมนตร์ เขาตั้งใจจะเสกให้ฟันเกของเธอสวยงามขึ้น แต่หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้นกลับมีงางอกออกมาแทน เป็นเหตุให้เซอร์นิโคลัสถูกยึดไม้กายสิทธิ์ และด้วยการประหารที่ไม่ชำนาญโดยปราศจากการไต่สวนพิพากษา เขาถูกบั่นคอถึง 45 ครั้งด้วยขวานทื่อ ๆ ทำให้หัวของเขาถูกห้อยติดด้วยหนังและเนื้อเยื่อเล็ก ๆ เส้นเดียว ในวันที่ 31 ตุลาคม 1492 (Pottermore)

ภาพวาดนิกหัวเกือบขาด โดย เจ.เค.โรว์ลิ่ง

ชีวิตหลังความตายที่ฮอกวอตส์

หลังการเสียชีวิตของเซอร์นิโคลัส เขาก็กลับมาเป็นผีอยู่ที่ฮอกวอตส์ เพราะเขากลัวความตาย เราเห็นเขาในร่างสีเงินจาง ๆ ที่หมวกประดับขนนกไว้หรูหรา ในชุดที่มีแผงคอเสื้อลูกไม้ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.38) นิกยังเป็นหนึ่งในสมัชชาผี (Ghost Council) ของฮอกวอตส์ ร่วมกับผีตนอื่นอย่างบารอนเลือด และบาทหลวงอ้วน (ถ้วยอัคนี บ.12)

ครั้งหนึ่งในปี 1992 เซอร์นิโคลัสเคยช่วยเหลือแฮร์รี่ด้วยการขอให้พีฟส์ทำลายตู้อันตรธานเพื่อเบี่ยงความสนใจของฟิลช์ไปจากแฮร์รี่ ขณะที่ฟิลช์กำลังจะลงโทษแฮร์รี่เพราะเขาทำพื้นสกปรกด้วยโคลนที่ติดรองเท้าเขามา

“ฉันเกลี้ยกล่อมพีฟส์ให้พังตู้ใบนี้ตรงเหนือห้องทำงานของฟิลช์พอดี” นิกบอกเสียงกระตือรือร้น “คิดว่าจะล่อเขาให้ไปจากเธอได้- -“

– นิกหัวเกือบขาด (ห้องแห่งความลับ บ.8)
งานเลี้ยงเต้นรำวันตายของนิกหัวเกือบขาด โดย Pottermore
งานเลี้ยงเต้นรำวันตายของนิกหัวเกือบขาด โดย Pottermore

31 ตุลาคม 1992 นิกหัวเกือบขาดฉลองครบรอบในงานเลี้ยงวันตายปีที่ 500 ซึ่งแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ได้รับเชิญให้ร่วมในงานนี้ ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะช่วยสนับสนุนให้เขาได้เข้าร่วมกลุ่มนักล่าหัวขาดของเซอร์แพทริก เดอเลนีย์-พอดมอร์ (ห้องแห่งความลับ บ.8)

18 ธันวาคม 1992 นิกหัวเกือบขาดถูกสาปให้กลายเป็นหินจากการสบตาบาซิลิสก์พร้อมกับจัสติน ฟินช์-เฟลตช์ลีย์

ฮาโลวีน 1993 นิกจัดแสดงในงานฮาโลวีนด้วยการนำฉากตัดหัวเกือบขาดของเขามาแสดงในห้องโถงใหญ่ (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.8)

ภาพฉากตัดหัวของนิกหัวเกือบขาด จาก Pottermore

เย็นวันหนึ่ง หลังการเสียชีวิตของซิเรียส แฮร์รี่ออกตามหาผีในฮอกวอตส์และเจอกับนิก เขาถามหาเหตุผลว่าทำไมซิเรียสถึงไม่กลับมาเป็นผี (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.38)

“ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นผีกลับมาได้”

“หมายความว่ายังไงครับ” แฮร์รี่รีบถาม

“มีแต่… มีแต่พ่อมด”

“อ๋อ ถ้างั้นก็โอเคเลย คนที่ผมถามถึงเขาเป็นพ่อมด เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องกลับมาได้ใช่ไหม”

นิกหันมาจากหน้าต่างและมองแฮร์รี่ด้วยสายตาละห้อย

“เขาไม่กลับมาแล้ว”

“แต่คุณกลับมานี่!” แฮร์รี่พูดอย่างโกรธ ๆ “คุณกลับมา — คุณตายไปแล้ว และคุณไม่ได้หายไปเลย –“

“พ่อมดอาจทิ้งรอยประทับของตัวเองไว้บนโลกใบนี้ได้ เพื่อจะได้เดินเป็นเงาราง ๆ ไปในสถานที่ที่เคยเดินเมื่อครั้งยังมีชีวิต” นิกพูดอย่างเศร้าสร้อย “แต่มีพ่อมดน้อยคนนักที่จะเลือกเส้นทางนี้… เขาจะ… ไปต่อ”

“ฉันกลัวความตาย” นิกพูดเสียงแผ่ว “ฉันเลือกที่จะอยู่ต่อ บางทีฉันก็นึกสงสัยว่าควรอยู่หรือเปล่า… คือ ถ้าไม่ที่นี่ก็ต้องเป็นที่นั่น… อันที่จริง ฉันไม่ได้อยู่ทั้งที่นี่และที่นั่น…” เขาหัวเราะเศร้า ๆ นิดหนึ่ง “ฉันไม่รู้อะไรเลยเรื่องความลับของความตาย แฮร์รี่ เพราะฉันเลือกชีวิตจำลองที่เลือนรางนี้แทน ฉันเชื่อว่าพ่อมดผู้มีความรู้ศึกษาเรื่องนี้กันที่กองปริศนา–“

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ บ.38

เกร็ดน่ารู้

  • ในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ และแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ นิกหัวเกือบขาด รับบทโดย John Cleese
  • ในฉบับร่างแรกของ ห้องแห่งความลับ เจ.เค.โรว์ลิ่งเขียนฉากหนึ่งให้นิกหัวเกือบขาดร้องเพลงบัลลาดที่เขาแต่ง แต่บรรณาธิการไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่ เจ.เค.จึงตัดส่วนนี้ออกไป (JKRowling.com)

แค่ความพลาดที่พ่อมดมักพลาดได้

ถ้าตกใจ แถมประหม่า และใจสั่น

แต่ความพลาดโง่เง่าในวันนั้น

ทำตัวฉันถูกบั่นคอจนถึงตาย

โอ้!… เพราะพบ เลดี้กรีฟ ในสวนนั้น

ยามสายัณห์ฉันเสกมนตร์ให้เธอหาย

จากฟันเกเป็นฟันสวยอย่างง่ายดาย

แต่สุดท้าย… เธอมี ‘งา’ งอกออกมา

ฉันขอโทษ จะแก้ไขให้เธอให้

แต่ใคร ๆ ไม่ไต่สวนพิพากษา

เขาเอาแท่นที่ประหารวางออกมา

แล้วมองหาหินลับขวานที่หายไป

จนรุ่งเช้าฉันเหงาหงอยและสิ้นหวัง

แต่พระยังมาบอกฉัน อย่าร้องไห้

“ออกจากคุกเถอะ ไม่ต้องสวมหมวก ไม่เป็นไร”

ฉันรู้ได้ว่าจุดจบเข้าใกล้ตัว

แล้วบัดนั้นพบผู้ชายใส่หน้ากาก

ผู้จะพรากคอฉันออกจากหัว

บอกกับฉัน “นิก เชิญคุกเข่า และก้มตัว”

ฉันตื่นกลัวตัวสั่นเทิ้มเริ่มลนลาน

“เจ็บหน่อยนะ” เพชฌฆาตเอ่ยปากว่า

แล้วเงื้อง่ายกแขนขึ้นเหวี่ยงขวาน

แต่ อ้าว! ขวานนั้นยังทื่อ! … เหมือนเมื่อวาน

สิ้นแรงขวาน หัวฉันยังไม่ขาดเชียว

เจ้ามือขวานยังคงสับ … สับ! และสับ!!

ประกันกับฉันด้วยว่า “อีกประเดี๋ยว”

แต่ประเดี๋ยวปรากฏว่าใช่เดี๋ยวเดียว

สี่สิบห้าครั้งเลยเชียวเขาสับไป

ฉันจึงตายโดยร่างกายมีหัวอยู่

ซึ่งดู ๆ แล้วมันคงไม่ไปไหน

ยังอยู่นี่ แม้เพลงนี้ จะจบไป

จะปรบมือหรือโห่ไล่ก็เรียนเชิญ

– บทเพลงสไตล์บัลลาดที่ เจ.เค.โรว์ลิ่ง แต่งเล่าเรื่องของนิกหัวเกือบขาด (J.K.Rowling)